Monday 30 January 2012

บ้านมีชีวิต

เมื่อวานให้คนมาตัดหญ้าและต้นไม้ที่กิ่งก้านที่ยื่นไปรบกวนข้างบ้าน เลยเดินสำรวจไปด้วย ก็เจอสมาชิกเพื่อนผู้แอบตั้งใจอยู่ในบ้านและบริเวณบ้าน บางตัวนี่ก็เหลือเกินป่ารอบบ้านมีให้อยู่ กลับมาเลือกที่จำเพาะแปลกๆ เก็บภาพมาเป็นหลักฐานเผื่อใช้แจ้งความผู้บุกรุก  หุ หุ


ข้างบน ไม่แน่ใจว่ารังมิ้มหรือเปล่าเพราะไม่เห็นตัวแล้ว  แบบนีมีหลายแห่ง ไม่เป็นขี้ผึ้งเป็นเหมือนกระดาษสีน้ำตาลบางๆ

ข้างบนนี่ไม่รู้ว่ารังนกอะไร แต่แอบมาทำรังที่ต้นมะตาดหน้าบ้าน ที่บ้าน meepole มีนกหลายชนิดจริงๆ ร้องเพลงสารพัดเสียง จำได้แล้วว่าวันไหนเสียงตัวไหนหายไป แต่ยังไม่รู้ว่าเสียงอะไรเป็นของนกอะไร ที่รู้ก็เจ้าเอี้ยง พิราบ นกเขา นกกางเขน กระติ๊บขี้หมู  ขมิ้น นกกระปูดใหญ่ ยังมีอีกน่าจะสามสี่ชนิดที่ไม่รู้จักตัว

ข้างบนนี่เป็นบ้านของตัวอะไรไม่รู้  นี่ยังหมาดๆ รังใหญ่มากอยู่บนพื้น

ข้างล่างนี่แห้งแล้ว  จะมีรูก้อนละ 1 รู  ไม่เคยเห็นเจ้าของบ้าน แต่บ้านดินนี่แข็งมากจริงๆ ยืนเหยียบไม่แตก ลองมาแล้ว ขว้างไม่แตก มีบิ่นบ้าง ไม่ละลายเละเมื่อแช่น้ำ (อาจต้องแช่ไว้นานกว่าที่ทดลอง)


ข้างล่างนี่แอบไต้ชายคาบ้าน ken- larna

ข้างล่างนี่หน้าตาเจ้าของบ้านค่อยๆโผล่ออกมา รอถ่ายนานเหมือนกันเพราะพอมันโผล่มาจ๊ะเอ๋เรา มันก็หลบลงรูทันที เป็นตัวเล็กๆคล้ายมิ้ม


ซ้าย-ล่าง นี่น่าเป็นพวกหมาร่า ที่ชอบแอบเข้าบ้าน พวดนี้ไม่มีมรรยาท อยากทำรังตรงไหนก็ทำไม่เกรงใจเลย

ล่าง  นี่ก็พวกไม่เกรงใจอีก ผ้าม่านก็ไม่เว้น

แต่ทั้งหมดทั้งปวง meepole ก็เคารพในสิทธิไม่ล่วงล้ำเขตบ้านเขาอยู่ได้อยู่ไป ไม่ไปทำอะไร ขวดน้ำหอมนั้นก็ยังไม่ได้ใช้เลย เขาจองตรงฝาขวดมาเกือบปีแล้ว ก้เข้าใจว่าเขาก้ลงแรงสร้างบ้าน บ้านใครๆก็รัก แต่หากบ้านร้างแล้วนานๆ อาจต้องขอรื้อทิ้งบ้าง เพราะเผื่อหนุ่มสาวตัวใหม่จะมาสนใจสร้างเรือนหอก็ไม่ว่ากัน 

ลองดูนะคะบ้านใครมีเพื่อนอะไรบ้างที่มาแอบอาศัยอยู่ ดูแล้วก็น่ารักดีค่ะ ยังไงๆไม่ว่าคนหรือสัตว์ บ้านก็เป็นที่ให้ความปลอดภัยกับชีวิต เพียงแต่สัตว์รู้จักการสร้างรังแต่พอตัว ไม่มีบ้านเล็กบ้านน้อย ใหญ่โตเกินตัว หรือคอนโดมากมาย บางคนมีมากจนมีหนี้สินล้น จนต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ ไม่ได้มีเวลาใช้ชีวิตอยู่ในบ้านอย่างเป็นสุขสงบกับสิ่งที่เพียรหามา หากมีอย่างเพียงพอ และรู้สึกพอเพียง ชีวิตก็เป็นอิสระ ที่สำคัญคือสัตว์เหล่านี้กลับบ้านตรงเวลา ไม่เข้าผิดบ้าน ไม่ทะเลาะเบาะแว้ง    บ้านก็เลยเป็นวิมานของเขา  และของ meepole ด้วย :)

Tuesday 24 January 2012

เงินโบนัส ..อย่าบั่นทอนตัวเอง


meepole ไปตรุษจีนบ้านสามีที่กรุงเทพ ระหว่างเดินทางก็อ่านหนังสือ "วิธีคิดตามหลักพุทธธรรม" ของท่าน ประยุทธ์ ปยุตโต ต่อจนจบเล่ม ตั้งใจว่าจะค่อยๆนำข้อคิดข้อเขียนที่มีประโยชน์มากในหนังสือนี้มาลงในบล็อกตามแต่โอกาสอำนวย  เปิดemail ที่ได้รับจากน้องดอกเตอร์รุ่นใหม่ (กลุ่มตัวเป็นไท ใจเป็นอิสระ ไม่ถูกครอบงำง่ายๆ) ที่ส่งเรื่องกฎเกณฑ์ ระเบียบของกพร.มาให้ศึกษากัน เพราะตอนนี้มีคนตั้งข้อข้องใจสอบถามเรื่องเกณฑ์การให้โบนัส (ที่บอกว่า "ลับ" ) กันมากในมหาวิทยาลัย มีข้อสงสัยกระซิบถาม เรื่องลับ คือเรื่องเงินโบนัส ที่มีความแตกต่างกันมากตั้งแต่ในระดับรองอธิการกันเอง ที่มีตั้งแต่ 290,000 บาท -150,000 บาท ระดับบริหารรองลงมาก็ลดหลั่นจนถึงอาจารย์ที่เท่าที่เขาทราบกันก็ 8,000- 10,000 ต้นๆ ก็เป็นอะไรที่ meepole ได้รับฟังข้อคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์มาพอควร แต่ไม่ได้ตามข่าวนักแล้วแต่ใครจะมาพูดเล่าให้ฟัง เลยได้ทราบว่าอาจารย์ดอกเตอร์หลายๆคนที่ทำงานวิจัย สอน ทั้งป.ตรี โท ยังได้โบนัสน้อยกว่าแม่บ้านที่ทำความสะอาดตึก น้อยกว่าเจ้าหน้าที่ เลยมีคำถามว่าอจ.เหล่านั้นมีอะไรที่แย่มากกว่าแม่บ้านทำความสะอาดตึกหรือ??

 meepole เข้าใจความรู้สึกมากทีเดียว จริงๆแล้วมีอาจารย์อีกมากมายอยู่ในภาวะเดียวกับอจ./ดอกเตอร์ที่ขยันทำงานหลายๆคน เงินไม่ได้เป็นสิ่งสำคัญมากนักในกรณีนี้ แต่ความกระจ่างที่เป็นเหตุเป็นผลและความยุติธรรมเป็นเรื่องที่ต้องแสดง ไม่ไช่เรื่องลับ เรื่องนี้เกิดเพราะไม่คิดอะไรให้รอบคอบเพื่อส่วนรวมคิดแต่ผลประโยชน์ตัวและพวกพ้องให้ได้มากเป็นพอ ไม่มองเหตุผลอันควรเป็นให้รอบด้าน เลยเกิดเรื่องแบบนี้ที่เป็นเรื่องปกติของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ที่...สาวได้สาวเอามานานแล้ว meepole คิดว่าไม่ต้องไปทำอะไรหรอกเพราะไม่เห็นประโยชน์ว่าจะเปลี่ยนพฤติกรรมใครๆได้ อกุศลกรรมใครทำคนนั้นย่อมทุกข์อยู่แก่ใจ  แต่กระนั้น meepole ได้ตอบ mail กลับไปโดยใช้ข้อความจากหนังสือที่เพิ่งอ่านจบไปดังนี้

ข้อความต่อไปนี้อาจช่วยให้คำตอบได้บ้างกรณีเหตุปัจจัยอย่างเดียวกันอาจไม่นำไปสู่ผลอย่างเดียวกัน

"....ในทำนองเดียวกัน คนต่างคนทำความดีอย่างเดียวกัน คนหนึ่งทำแล้วได้รับการยกย่องสรรเสริญ เพราะเขาทำในที่ที่เขานิยมความดีนั้น หรือทำเหมาะแก่กาลเวลาที่ความดีนั้นก่อประโยชน์แก่คนที่ยกย่อง อีกคนหนึ่งทำแล้วกลับไม่เป็นที่ชื่นชม เพราะทำในที่ที่เขาไม่นิยมความดีนั้น หรือทำแล้วเป็นการทำลายประโบชน์ของคนที่ไม่พอใจ......."

อันนี้มาจากหนังสือวิธีคิดตามหลักพุทธธรรมของท่าน ประยุทธ์ ปยุตโต

ดังนั้นอย่าไปสงสัยอะไรเลย อะไรที่ "ลับ" ก็อย่าไปสงสัย อะไรที่ "เปิด" ก็อย่าไปเชื่อ ให้ดูที่ "คน"ในสังคมนั้น เมื่อรู้แล้วว่าเป็นเช่นใดก็อย่าไปให้ค่ามันมากนัก เพราะความจริง ความดี ความซื่อตรง ความซื่อสัตย์ สัจจะ ความมีคุณธรรม ศักดิ์ศรีของวงศ์ตระกูล ซื้อไม่ได้ด้วยเงิน เพราะสิ่งเหล่านี้ต้องถูกบ่มเพาะมาตั้งแต่วัยเยาว์ ตั้งแต่ในครอบครัวที่มีพ่อแม่ปฎิบัติให้เห็นและหล่อหลอมกันมา กระทั่งครูที่อบรมสั่งสอน

เงินภาษีแผ่นดินเป็นเงินไม่ธรรมดา หากใครเบียดบัง หรือฉ้อโกง หรือคอรัปชั่นเชิงนโยบายเพื่อเลี้ยงชีวิตตนและครอบครัว ชีวิตก็ร้อนรน แตกแยก หวาดระแวง..ยากที่จะอยู่ได้อย่างสงบสุข อันที่จริงก็เห็นๆกรรมนี้ที่เป็นไปกันชัดเจนในบางครอบครัวในมหาวิทยาลัยแห่งนี้......ก็ไม่รู้ว่าที่เราเขียนตอบนี่จะทำให้สบายใจกันได้หรือเปล่า?


ดังนั้น อย่าไปจิตตกกับเรื่องเช่นนี้ อย่าให้เงินมาบั่นทอนตัวเอง แต่เอามาเป็นตัวยกระดับจิต ฝึกจิต ชีวิตเราดีชั่วไม่ไช่ให้ใคร (คนที่ไม่ดี) มาวัดมาตัดสินเราว่าดีหรือไม่ดี ถ้าเราทำดีแล้ว ชอบแล้ว ก็ดี คนชั่วตัดสินคนดีไม่ได้ และไม้บรรทัดคดก็ขีดเส้นตรงไม่ได้ (อันนี้ meepole เคยพูดกับอธิการบดี)


หมายเหตุ: เอกชนมีโบนัสให้เพราะมีผลกำไร แต่ราชการทำไมต้องมีโบนัส meepole ไม่เห็นด้วย สมัยก่อนไม่มีก็ทำงานกันได้ดี  เงินโบนัสที่ได้หากเอามาซื้ออุปกรณ์การศึกษาพัฒนานักศึกษาน่าจะเกิดประโยชน์มากกว่าตำน้ำพริกละลายแม่น้า และบั่นทอนหลายๆกำลังใจที่เขายังต้องการความยุติธรรมที่หาได้ยากยิ่งในสังคมของผู้อ่อนด้อยคุณธรรม

Friday 20 January 2012

เลี้ยงอาหารเด็กนร.ตาบอด

หนังสืออักษรเบรลล์

วันนี้ meepole สามี และเพื่อนสนิทอีกสองคนได้ไปเลี้ยงอาหารนัดเรียนตาบอด ที่รร.สอนคนตาบอด ที่นี่มีนักเรียนประมาณ 100 คน กลางวันมีเด็กในรร. 70 คน เพราะเด็กโตจะออกไปเรียนร่วมกับเด็กปกติในรร.ต่างๆ  ที่นี่จะมีถึงระดับชั้นม.3 เด็กหลายคนอยู่ที่นี่มา 8 ปีแล้ว เด็กจะอัธยาศัยดี พูดโต้ตอบทุกคนและติดคนง่าย คุณครูต้องใจเย็น มีเมตตากรุณาต่อพวกเขามากเลยทีเดียว meepole ไปนั่งดูการสอนของครูแล้ว ต้องชมเชยความใจเย็น และครูมีวิธีการสอนที่น่าทึ่งกว่าเด็กปกติ

meepole ตั้งใจจะเอาเงินโบนัส (ที่ไม่คิดว่าจำเป็นต้องมี) ที่ได้มาทำบุญให้หมด จึงแบ่งใช้ทำบุญถวายอาหารเพลพระสงฆ์ ถวายปัจจัยท่านเจ้าอาวาสวัดศานติไมตรี ซื้อของขวัญให้คุณครูหลายท่านในวันครู และนี่เป็นรายการที่ทำหลังสุด แต่ตั้งใจแรกสุด เพราะต้องนัดวันว่าง

เช้าออกไปรับไก่ทอด ลูกชุบ วุ้น มาเลี้ยง ข้าว กับแกงส้มปลา รร.รับทำให้ วันนี้ทราบว่าปกติเด็กจะไม่ค่อยได้ทานปลาเพราะปลาแพง เลยตั้งใจคราวหน้าจะทำปลาทอดมาเลี้ยงอีก





บน อาคารแรก อาคารบริหาร ที่มีห้องเรียน ห้องสมุดเล็กๆ ห้องคอมพิวเตอร์

บน ห้องข้างล่างที่เป็นห้องเรียนกิจกรรมต่างๆของเด็ก
ล่าง อาคารเรียน ด้านใน

บน  ห้องเรียน ที่เป็นห้องคอมฯและห้องสมุดเล็กๆ

ล่าง หอประชุม อาคารอเนกประสงค์ เป็นห้องทานอาหารกลางวันด้วย

ล่าง ดช.สามารถ คุยเก่งสมชื่อ จ้อจริงๆ
ดญ.จันทร์ฉายที่ใครๆเรียกว่า ฉลวย เป็นเด็กในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเทพฯ เป็นเด็กที่ครอบครัวได้รับผลกระทบจากสึนามิ

บน สนามเด็กเล่น
ล่าง ไปดูหนังสือของเขา จะเห็นว่าไม่เหมือนของเราเขาเอาหนังสือปกติมาใส่แผ่นพลาสติกที่พิมพ์อักษรเบรลล์สอดในระหว่างหน้า


"นักเรียนตาบอดต้อง  ใช้แบบเรียนของเด็กปกติที่กระทรวงฯ มีการปรับเปลี่ยนทุกเทอม ทำให้มูลนิธิเพื่อ  คนตาบอดต่าง ๆ ต้องแบก  รับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นทุกปี เพราะการผลิตหนังสืออักษรเบรลล์เมื่อได้หนังสือแบบเรียนอักษรปกติมา ครูจะต้องพิมพ์ใหม่ทั้งหมด เนื่องจากสำนักพิมพ์เจ้าของหนังสือไม่มีไฟล์ข้อมูลมาให้ ส่งผลให้ต้องใช้เวลานานกว่าจะพิมพ์เสร็จ หลังจากพิมพ์เสร็จถึงจะนำไปแปลงเป็นอักษรเบรลล์ที่ใช้ในการพิมพ์ ซึ่งลองคิดดูว่า เปิดเทอมใหม่ทีกระทรวงฯ ปรับปรุงแบบเรียนบ่อยกี่วิชา แล้วครูที่ทำหนังสืออักษรเบรลล์ต้องลำบากแค่ไหน "  braille-cet.in.th


ล่าง เด็กๆลงมาเตรียมตัวรอทานอาหาร
ล่าง ลูกชุบ จากร้านที่อร่อย อร่อยจริงๆ meepole ปกติไม่ชอบลูกชุบ ไม่ทานเลย แต่พอลองทานของที่นี่เลยชอบ




ล่าง น่องไก่ทอด
ล่าง เพื่อนที่ไปด้วยช่วยกันให้อาหาร มีจนท.ตักใส่ถาดหลุม พวกเราช่วยตักขนมใส่ เด็กจะเข้าแถวเป็นระดับชั้น

ล่าง ก่อนทานเด็กๆจะกล่าวขอบคุณ และร่วมร้องเพลง


ล่าง ความสุขของทั้งผู้ให้และผู้รับที่สัมผัสได้

ล่าง  ทานเสร็จเก็บถาด แก้ว ล้างกันเอง แต่เด็กเล็กจะมีถังวางรวมให้ผู้ใหญ่ช่วยล้าง

เด็กโต ทานแล้วมาล้างถาดของตัวเองแล้ววางพักไว้

ล่าง ทานเสร็จก็นั่งพักผ่อน เล่นกันตามอัธยาศัย

ชีวิตเราส่วนมากโชคดีนักที่มีอาการครบ 32 ประการ แต่ยังมีคนอีกมากมายที่ไม่ได้โชคดีเช่นนั้น แต่กระนั้นพวกเขามีชีวิต ความรู้สึกนึกคิด ต้องการความรัก ความอบอุ่นเช่นเดียวกัน ทราบว่าหลายคนมากที่พ่อแม่ไม่ได้มาเยี่ยมเยือน บางคนนานมาก ปีใหม่เด็กบางคนรอพ่อแม่ นั่งร้องไห้  หลายคนเรียนดี พูดเก่ง น่ารัก บางคนบอดตาใส บางคนเห็นลางๆ วันนี้เพื่อนที่ไปเล่าว่าเห็นเด็กตัวเล็กกว่าคนอื่นๆมีน้ำใจมาก ทำหน้าที่ช่วยจูงเพื่อนที่โตกว่าเดินไปส่งที่ห้องน้ำ คนแล้วคนเล่า เธอจำทางแม่น เดินได้ไม่เฉออกนอกทาง  ดูชีวิตเด็กๆเหล่านี้ใส บริสุทธิ์ น่ารัก เรียบๆ ไม่ต้องการอะไรมากมายนอกจากความรัก ความอบอุ่นที่ใครๆจะให้เขาได้ เพียงแต่เราผู้มีโอกาสดีกว่า หยิบยื่นเมตตาแวะเวียนไปพูดคุย เขาจะชอบมาก 

โอกาสเป็นสิ่งที่เรามีเท่ากันแต่ สภาพคล่องที่อำนวยต่างกัน ดังนั้นหากเราโชคดีที่มีหลายๆอย่างอำนวยโอกาสและความสะดวกแล้วก็ควรใช้โอกาสเหล่านั้นสร้างสืบต่อสิ่งดีๆ เพื่อสังคม ลดโลภะ โทสะ โมหะ อย่าเห็นแก่ประโยชน์ตนและพวกพ้องจนลืมเพื่อนร่วมชาติ

หากใครมีเวลาลองแวะไปเยี่ยมเยือนรร.ตาบอดในแต่ละจังหวัดที่มีนะคะ แล้วจะรู้เลยว่าเวลาเขากล่าวขอบคุณเรา ร้องเพลง ก่อนที่เขาจะทานอาหารนั้นเรียกน้ำตาให้ซึมออกมาโดยไม่รู้ตัวเลยทีเดียว

อนุโมทนาบุญนะคะ :)

Monday 16 January 2012

วันครู1: แด่ “ครูที่เป็นครู”

ถึงวันครูอีกครั้งแล้ว จึงขอนำข้อเขียน ชุดนี้ ที่เคยเขียนไว้ณ.ที่แห่งหนึ่งมาลงในบล็อกของตัวเองอีกครั้ง เพื่อระลึกนึกถึงพระคุณครู    แด่   ครูที่เป็นครู”

ครู 1: ความเป็นครู - ครูแห่งแผ่นดิน




ในปี 2554 คณะรัฐมนตรีได้ขอพระราชทานน้อมเกล้าฯ ถวายพระราชสมัญญาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระผู้ทรงเป็นครูแห่งแผ่นดิน”
คำขวัญวันครูประจำปี พ.ศ.2554 เทิดพระเกียรติทั่วหล้า บูชาครูของแผ่นดิน ภูมินทร์ภูมิพล”  เพื่อเทิดเกียรติคุณครู 
คำขวัญวันครูประจำปี พ.ศ.2555 บูชาครูแห่งแผ่นดิน จอมปราชญ์ศาสตร์ศิลป์ สยามินทร์ ภูมิพล”

ดังนั้นเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ครูทุกคนจึงขออัญเชิญ ส่วนหนึ่งของ  พระราชดำรัส พระราชทานแก่ครูอาวุโส ในโอกาสเข้าเฝ้าฯ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน 21 ตุลาคม 2521 มาให้อ่านกันค่ะ


 “.....ถ้าครูไม่ห่วงประโยชน์ที่จะห่วง หันไปห่วงอำนาจ ห่วงตำแหน่ง ห่วงสิทธิ์ และห่วงรายได้ กันมากเข้าๆ แล้วจะเอาจิตใจที่ไหนมาห่วงความรู้ ความดี ความเจริญของเด็ก ความห่วงในสิ่งเหล่านั้น ก็จะค่อยๆ บั่นทอนทำลายความเป็นครูไปจนหมดสิ้น จะไม่มีอะไรที่เหลือไว้พอที่จะตัวเองจะภาคภูมิใจหรือผูกใจใครไว้ได้ ความเป็นครูก็จะไม่มีค่าเหลืออยู่ให้เคารพบูชาอีกต่อไป......”

 ครูไม่ไช่เป็น คนอ่านหนังสือมาสอน แต่ครูต้องเป็นผู้มีความรู้ เป็นแบบอย่างที่ดี เป็นที่พึ่งพิงของสังคมได้ ดังพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานแก่คณะครูโรงเรียนวังไกลกังวล เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2521 ความตอนหนึ่งว่า...


 “...สำหรับครูนั้น ก็จะต้องทำตัวให้เป็นที่รัก เป็นที่เคารพ เป็นที่เชื่อใจของนักเรียน คือ
ข้อแรก ต้องฝึกฝนตนเองให้แตกฉานและแม่นยำ ชำนาญทั้งในวิชาความรู้และวิธีสอน เพื่อสามารถสอนวิชาทั้งปวงได้โดยถูกต้อง กระจ่างชัด และครบถ้วนสมบูรณ์


อีกข้อหนึ่ง ต้องทำตัวให้ดี คือต้องมีและแสดงความเมตตากรุณา ความซื่อสัตย์สุจริต ความสุภาพ ความเข้มแข็งและอดทนให้ปรากฏชัดเจน จนเคยชินเป็นปกติวิสัยเด็ก ๆ จะได้เห็น ได้เข้าใจในคุณค่าของความรู้ในความดี และในตัวครูเองอย่างซาบซึ้ง และยึดถือเอาเป็นแบบอย่าง      ภารกิจของครู คือการให้การศึกษาก็จะได้บรรลุตามที่มุ่งหวัง...”




"ครูที่แท้จริง"
ทำงานเพื่อช่วยโลก เพื่อยกโลก เพื่อสร้างโลก
ไม่ได้ทำเพื่อเงินเดือน

 พุทธทาสภิกขุ


meepole ขอคารวะ ครูดีที่แท้จริง ของลูกศิษย์ ทุกท่าน

Friday 13 January 2012

วันเด็ก..คนดีของเด็ก


 โพลวันเด็กปี 2555 ระบุ" เด็กไทยส่วนใหญ่อยากเห็นผู้ใหญ่สามัคคีปรองดอง  เผยคำว่าซื่อสัตย์คือคุณสมบัติของคนดี ............."

คุณสมบัติของคนดีในความคิดของเด็ก ๆ ปีนี้พบว่า

           เด็กร้อยละ 38.4 ระบุว่า ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต       
           เด็กร้อยละ 36.2 ระบุว่า ต้องเป็นคนใจดี มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
           เด็กร้อยละ 38.4 ระบุว่า ต้องมีความขยันอดทน


meepole ดีใจมากเลยที่เด็กในวันนี้ ผู้ใหญ่ในอนาคต ยังมีความคิดว่า "คนดี ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต"  อยากให้หลายๆคนตระหนักและสำนึกในสิ่งที่เด็กคิดนี้จังเลย  เพราะนั่นหมายความว่า คนที่คดโกง คอรัปชั่น ทำดำให้เป็นขาว ซื้อสินค้าออกใบเสร็จราคาเกินจริง  จ้างทำของที่ให้คนทำเซ็นต์สองครั้งอ้างทำใบสำคัญรับเงินหาย ประมูลซื้อพัสดุต่างๆต้องได้บริษัทญาติและญาติของ...จนเป็นที่รู้กันดีในวงการ หรือไม่ก็รับเปอร์เซนต์ส่งส่วยเป็นรายเดือน หรือคอรัปชั่นเชิงนโยบายมากมาย ที่ทำกันอยู่ แบบนี้ตามความคิดของเด็กในวันนี้ ก็คงต้องเป็นคนชั่ว สินะ  !! เพราะเข้าข่ายไม่ซื่อสัตย์ :)

...เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าผู้ใหญ่แล้วหลายๆคนที่เห็น มีอาชีพน่าเคารพนับถือของผู้คน แต่ทำไมน้อ! ยอมทำตัวเป็นคนชั่ว โกงกิน เบียดเบียน เอาเปรียบ ผู้น้อยทุกอย่าง  ทุกช่องทางที่ทำได้ แล้วจะเหลือความภูมิใจอะไรไว้ให้ลูกหลาน เหลนของพวกเขาหนอ ในเมื่อเงินเลี้ยงชีวิตลูกหลานเขา โอกาสของพวกเขาหลายๆอย่างได้มาจากความไม่ซื่อสัตย์ ทุกรูปแบบของพ่อแม่โดยแท้!!  meepole อยากให้คนเหล่านั้นกลับใจ หยุด พอกับสิ่งที่มี เพราะสะสมไว้มากแล้วจริงๆ หันมาสะสมความดีให้ลูกหลานและสังคมกันเถอะ..ก็ไม่รู้ว่านี่คือความฝัน หรือความหวังที่จะเป็นจริงได้  เคยมีคนบอกเราว่า เงินบาป ไม่สามารถสร้างความเจริญให้ลูกหลานได้หรอก meepole ก็เชื่อเช่นนั้นเหมือนกันเพราะปัจจุบันก็เห็นผลของอกุศลกรรมที่ปรากฎในบางครอบครัวแล้ว และบางครอบครัวก็กำลังดำเนินอยู่ น่ากลัวจริงๆ

ได้แต่หวังว่าคุณสมบัติของคนดีในความคิดของเด็ก ๆ คงจะสะกิดใจผู้ใหญ่บางคนให้กลับใจ ปรับปรุง ด้วยการเริ่มต้นละ ลด ความละโมบ ความหลง ลงบ้างแล้วสิ่งดีๆก็จะเริ่มเข้ามาในชีวิต

Monday 9 January 2012

ดนตรีป่าวง Amphibian symphony

เกาะบนแขนจับตู้เย็น

วันนี้ตอนเช้าที่บ้าน อันสืบเนื่องจากเมื่อคืนก่อน..ตอนค่ำเปิดตู้เย็นด้านช่อง freeze เปิดปุ๊บ มีอะไรปาดหน้าไปดังแปะ มองหาอยู่ครู่หนึ่งก็เจอ เจ้าปาดน้อยนี่เองเหาะมาเกาะอยู่ที่ช่องใส่ของ ปิดเมื่อไหร่แข็งตายทันที เลยเอามือเขี่ยให้กระโดด แต่มันเหนียวหนึบ แถมไม่กลัว meepole เสียอีก เลยวางของเอามือจะจับ คราวนี้กระโดดเวปมาเกาะที่มือจับด้านนอกตู้เลยปิดตู้ได้ แต่มันยังเกาะแถมยื่นหน้ามามองแบบว่า มีอะไร อ๊ะ เปล่า เลยไปเอากล้องมาถ่าย ได้รูปเอามาให้ดูกัน  ตอนแรกตั้งใจจะเก็บไว้เฉยๆ เพราะที่บ้านจะมีรูปสัตว์ผู้ร่วมอาศัยเก็บไว้เยอะตั้งแต่แมลง นก ตุ๊กแก หนอน กบ ปาด และไม่รู้ตัวอะไรฯ เก็บไว้ดูเล่น ขำๆ สยองบ้างก็มี พวกหนอนขน ฯ

...แต่ปรากฎว่าเช้านี้จะออกจากบ้าน เจอเจ้าปาดกำลังขยายพันธุ์ สร้างประชากรปาดเพิ่มในบ้านอีก meepole ชอบสัตว์พวก amphibian เล็กๆ โลกของเขาเย็นสบายง่ายๆดี เลยเอารูปมาให้ดูอีก  ที่บ้าน meepole จะเตรียมอ่างใส่แหน ไว้ให้พวกกบ คางคก อึ่งอ่าง ปาด มาวางไข่ เวลาฝนตก กลางคืนจะได้ยินเสียงดนตรีป่าวง Amphibian symphony เขาบรรเลงเพราะมากมีเสียง สูง-ต่ำ แหลม-ทุ้ม หลายจังหวะ แล้วบางช่วงจะเงียบสนิทลงทันที เหมือนว่ามี conductor ลงจังหวะหยุด สักครู่จะมีตัวหนึ่งเริ่มขึ้นต้นเสียง ออบ!เดียวเท่านั้น แล้ววงดนตรีทั้งวงจะเริ่มบรรเลงกระหึ่มป่าอีกครั้ง meepole ชอบมาก เคยคิด (วันหนึ่งจะทำ) จะอัดเสียงเขาเก็บไว้ เผื่อในอนาคตฝนไม่ตกตามฤดูกาล แล้งมาก กบ ปาดไม่มี ลงรูจำศีลหลบหนีหมด จะได้มีดนตรีฟัง หุ หุ 

ใครอยากลองฟัง ต้องสร้างวงดนตรีและคณะก่อน ลงทุนไม่ยากค่ะ ใช้ โอ่ง อ่าง กาละมัง กระถาง อะไรก็ได้ใส่ดินปลูกบัวหรือไม่ปลูกอะไรก็ลอยแหน ไว้ให้ชุ่มชื้น วางซุกๆหลายๆจุด เท่านี้ก็มีดนตรีป่า สารพัดทำนองให้ฟังรับรองหลับสนิทเลย  :) :))

นั่นแน่! มาแอบทำอะไรกันหลังนก ?? ตัวผู้ด้านบนตัวจะเล็กมากเป็นครึ่งหนึ่งทีเดียว



บน: กำลังก่อหวอดนั่นเอง จะค่อยๆปล่อยออกมาเรื่อยๆเป็นระยะๆ ตัวเมียข้างล่างจะใช้ขาขยับดันฟอง

ล่าง: หวอดที่สร้างเสร็จแล้วจะมีสีเข้มขึ้นเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ


หลังจากนี้หวอดด้านบนจะแห้งเล็กน้อย แต่ไม่มากเพราะน้ำด้านล่างจะช่วยให้ความชื้น แต่ถ้าอยู่กลางแสงแดดไม่มีอะไรคลุมก็ต้องหาทางช่วยกางร่มใบไม้ ว่างๆจะเอารูปมาลงตอนที่เคยช่วยเขาไว้ พอออกเป็นตัวหมดก็จะแห้งหมด ใช้เวลาเป็นสัปดาห์

หากเราไม่ละเลยสิ่งเล็กๆในบ้าน เราจะพบหลายๆชีวิตที่อยู่ร่วมชายคามีวัฎจักรของชีวิตเฉกเช่นคน มีชีวิต รักชีวิต เราไม่เบียดเบียนเขา เขาก็ให้ความสุขทางใจแก่เรา ดังนั้นลองสำรวจดูนะคะว่าในบริเวณบ้านท่านมีอะไรที่มาอยู่ร่วมชายคาบ้าง เพลินดีค่ะ

Friday 6 January 2012

เข้าใจในบุญ



ในที่สุดเข้าใจบุญให้เกิดบุญ ได้รวบรวมเรียบเรียงมาลงในบล็อกนี้ครบ 10 หัวข้อแล้ว และก่อนหน้านี้ได้จัดพิมพ์ในโอกาสรับกฐินพระราชทานเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2554 และล่าสุดคณะศิษยานุศิษย์ทั้งหลายที่ได้เคยอ่านได้ขอให้มีการจัดพิมพ์รวมเล่ม จึงได้เขียน รวบรวมเรียบเรียงเพิ่มเติมในหลายหัวข้อ ซึ่งจะตัดบางส่วนมาเพิ่มเติมในบล็อกนี้ในโอกาสต่อไป และได้เพิ่มเรื่องที่ดีมากในหนังสือเล่มนี้ และเป็นสิ่งที่ meepole อ่านแล้ว อยากจะนำมาเผยแพร่ให้ผู้ที่มีโอกาสได้เข้ามาเยี่ยมเยือนที่นี่ ได้อ่านและสามารถนำไปเป็นข้อคิด ที่นำไปบอกต่อก่อบุญ ร่วมกันนะคะ เรื่องที่นำมาลงชุดต่อไป meepole ตั้งชื่อเรื่องว่า "ข้ออธิษฐาน..บนทางธรรม"

ปีนี้ meepole ได้จัดทำหนังสือถวายเป็นพุทธบูชาจำนวน 3 เล่มไว้ให้พระอาจารย์แจกให้สาธุชนในโอกาสต่างๆกันทั้งปี (และหนังสือสวดมนต์เข้าพรรษา 1 เล่ม)  โดยมีคณะศิษย์ และผู้มีจิตเป็นกุศลร่วมสมทบทุนการพิมพ์ทุกรายการ โดยไม่ได้มีการเรี่ยไรใดๆ (ยกเว้นเล่มที่พิมพ์เพื่อเป็นที่ระลึกในการถวายกุฎิสงฆ์ 3 หลัง ที่พระอาจารย์เมตตาแนะนำว่าอย่าทำคนเดียวให้บอกบุญด้วย จึงได้บอกบุญเฉพาะในส่วนของหนังสือ ด้วยความเกรงใจจึงบอกเฉพาะที่สนิทกันมาก และรู้ว่ามีศรัทธาไม่ลำบากใจใดๆ ) และยังมีปัจจัยเหลือไว้สำหรับหนังสือเล่มต่อไปอีก ก็จะทำต่อไปอีกในปีนี้ ดังนั้นขอท่านทั้งหลายได้โปรดร่วมกล่าวอนุโมทนาบุญด้วยกันนะคะ ..สาธุค่ะ


 meepole ตั้งใจขอเป็นส่วนหนึ่งที่จะมีโอกาสรวบรวม เรียบเรียง พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ข้อธรรมของพระภิกษุที่ท่านได้นำหลักธรรมมาขยายความ และข้อเขียนของฆราวาสผู้สนใจศึกษาในธรรม มารวบรวม เรียบเรียงเพื่อเผยแพร่ บอกต่อเพื่อให้ผู้ไม่เข้าใจได้เข้าใจ ผู้ที่เข้าใจไม่ถูกต้อง ให้เข้าใจได้ถูกต้องและปฎิบัติถูกต้อง อันจะนำมาซึ่งความเข้าใจ เกิดปัญญาในการประพฤติปฎิบัติตามหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ และอานิสงส์ที่ meepole ได้รับคือ ค้นคว้ามาก อ่านมาก ก็รู้ตัวเองว่ายังมีอีกมากนักที่ไม่รู้ และทำให้ต้องสนใจศึกษาให้มากขึ้นๆต่อไป และช่วยขัดเกลานิสัยที่เคยใจร้อนให้เย็นลงมาก จิตไม่กระโดด (แก่วง) ขึ้น ลง ตามสิ่งเร้าภายนอกมากนัก หากแกว่งออกก็จะกลับมาเร็ว และที่สำคัญคือมีความสุขใจ ที่อ่านแล้วได้นำมาเขียนเผยแพร่และมีผู้เมตตาสนใจติดตาม ทั้งๆที่ meepole รู้ว่าหลายท่านที่เข้ามาติดตามในบล็อกนี้ของ meepole มีความรู้ในหลักธรรม และมีการปฎิบัติที่มากกว่า meepole มากนัก แต่ก็เข้ามาให้กำลังใจกันเป็นประจำทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ และติดตามให้กำลังใจในความตั้งใจของ meepole ต่อไปด้วยนะคะ

ข้อความในปกหลังของหนังสือเข้าใจในบุญ
พระผู้มีพระภาคจึงได้ตรัสดังนี้ว่า
จาก....ภัทเทกรัตตสูตร
"บุคคลไม่ควรคำนึงถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้ว
ไม่ควรมุ่งหวังสิ่งที่ยังไม่มาถึง
สิ่งใดล่วงไปแล้ว สิ่งนั้นก็เป็นอันละไปแล้ว
และสิ่งที่ยังไม่มาถึง ก็เป็นอันยังไม่ถึง

ส่วนบุคคลใดเห็นแจ้งธรรมที่เป็นปัจจุบัน
ไม่ง่อนแง่น ไม่คลอนแคลนในธรรมนั้นๆ
บุคคลนั้นพึงเจริญธรรมนั้นให้แจ่มแจ้ง

บุคคลควรทำความเพียรเสียในวันนี้แหละ
ใครเล่าจะรู้ว่าความตายจักมีในวันพรุ่งนี้
เพราะว่าความผลัดเพี้ยนกับมัจจุราชผู้มีเสนามากนั้น
ย่อมไม่มีแก่เราทั้งหลาย

Wednesday 4 January 2012

การทำความเห็นให้ตรงให้เกิดบุญ (13 จบชุด)

วันนี้เป็นตอนสุดท้ายแล้วของการปฎิบัติที่ก่อให้เกิดบุญ และเป็นสิ่งสำคัญที่เป็นตัวก่อให้เกิดทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำ นั่นคือ

การทำความเห็นให้ตรงให้เกิดบุญ

หลวงพ่อลาก



การทำความเห็นให้ตรง ทิฏฐุชุกัมม์ ได้จะต้องมี สัมมาทิฏฐิ เห็นชอบ คือเห็นตรงตามทำนองคลองธรรม ให้ถูกต้อง ความเห็นถูกต้องนี้ต้องทำกันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะทำอะไร ควรพิจารณาตรวจสอบกิจกรรมทุกอย่างว่า เราทำด้วยความรู้เข้าใจถูกต้องหรือเปล่า ไม่ทำอย่างงมงายต้องมีความเข้าใจที่ถูกต้องประกอบอยู จัดเป็นบุญอย่างหนึ่งในพระพุทธศาสนา

ส่วนการเห็นผิดจากทำนองคลองธรรม เช่น เห็นว่าทำดีไม่ได้ดี ทำชั่วไม่ได้ชั่ว บาปบุญไม่มี นรกสวรรค์ไม่มี ตายแล้วสูญ เป็นต้น เป็นมิจฉาทิฐิ เป็นอกุศลกรรมบถ จัดเป็นบาป แม้ไม่ได้ทำชั่วด้วยกาย หรือวาจา แต่ถ้ามีความคิดเห็นเช่นนี้ก็จัดเป็นบาป และบาปมากถึงขั้นห้ามสวรรค์ห้ามนิพพานทีเดียว เพราะจิตตั้งไว้ผิดหลงทางเสียแล้ว จึงไม่ยอมทำความดี มีแต่จะทำความชั่ว

ส่วนการทำความเห็นให้ตรง เช่น เห็นว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นต้น แม้ผู้นั้นยังไม่ทำดีด้วยกาย หรือว่าไม่ทำดีด้วยกาย หรือวาจา เป็นเพียงแต่เห็นถูก เห็นตรงเท่านั้น ก็จัดเป็นบุญ และเป็นบุญที่ครอบคลุมบุญอื่นทั้งหมด เพราะเมื่อคนเราเห็นถูก เห็นตรง เป็นสัมมาทิฏฐิแล้ว ก็ย่อมทำบุญประเภทอื่น ๆ ด้วยความสนิทใจ เชื่อมั่น และตั้งใจทำ


 สัมมาทิฏฐิ 10 คือ มีความเห็นตรง เห็นถูกต้องตามความเป็นจริงใน 10 เรื่อง โดยเห็นว่า
ผู้ใดมีความเห็นชอบ เห็นตรง ทั้ง 10 อย่างนี้ ชื่อว่าทำความเห็นให้ตรง เป็นสัมมาทิฐิ ถ้าเห็นตรงกันข้ามก็เป็นมิจฉาทิฐิ

1. การให้ทานมีผล
2. การบูชามีผล
3. การต้อนรับแขกด้วยของต้อนรับมีผล
4. ผลของกรรมดีกรรมชั่วมี
5. โลกนี้มี (คือสัตว์จากโลกอื่นมาเกิดในโลกนี้มี)
6. โลกอื่นมี (คือสัตว์จากโลกนี้ไปเกิดในโลกอื่นมี)
7. มารดามีคุณ
8. บิดามีคุณ
9. สัตว์ที่เป็นโอปปาติกะ (เช่น เทวดาและเปรต) มี
10. สมณพราหมณ์ ผู้ปฏิบัติชอบ ทราบชัดถึงโลกนี้และโลกอื่นด้วยปัญญาได้เอง และสามารถให้ผู้อื่นรู้ได้ด้วย มี (คือ พระอรหันต์มี)
  
จิตที่ตั้งไว้ถูกทางนั้น ย่อมนำความสุขความเจริญมาให้แก่เจ้าของได้มาก ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในคัมภีร์ธรรมบทว่า
น ตํ มาตา ปิตา กยิรา       อญฺญเฌ วาปิจ ญาตกา
สมฺมาปณิหิตํ จิตฺตํ       เสยฺยโส นํ ตโต กเร.

จิตที่ตั้งไว้ชอบ ย่อมทำบุคคลนั้นให้ประเสริฐยิ่งกว่าสิ่งที่พ่อแม่หรือญาติพี่น้องอื่นทำให้เสียอีก

ดังนั้นการทำบุญในพระพุทธศาสนามีเพียง 10 ประการดังกล่าวมา ไม่ได้นอกเหนือไปกว่านี้เลย ใครจะเลือกทำอย่างไหนก็ทำได้ตามกำลังและความสามารถของตน แม้คนไม่มีเงินทองเลย เป็นคนยากจนก็สามารถทำบุญได้ ถ้าหากผู้นั้นประสงค์จะบำเพ็ญบุญจริง ๆ เพราะบุญไม่ใช่เพียงให้ทานอย่างเดียว ยังมีอีกถึง 9 อย่างที่ไม่ต้องใช้เงินทอง และมีอยู่หลายอย่างที่มีผลมากกว่าทาน
บุญของเรานั้นไม่ได้อยู่เฉพาะแค่พระสงฆ์ที่เราถวายเท่านั้น แต่บุญไปถึงพระศาสนาทั้งหมด เมื่อพระศาสนาอยู่ได้ ธรรมก็อยู่ได้ แล้วธรรมก็เผยแพร่ออกไป ก็เกิดเป็นประโยชน์แก่ประชาชน เมื่อประชาชนได้รู้เข้าใจประพฤติปฏิบัติธรรม สังคมก็ร่มเย็นเป็นสุข
เวลาทำบุญ เราสามารถทำทั้ง 3 อย่างพร้อมกันอย่างที่กล่าวแล้ว อย่าให้ได้แต่ทานอย่างเดียว ต้องให้ได้ศีล ได้ภาวนาด้วยพร้อมกันหมด เราจึงจะพูดได้เต็มปากว่า ทำบุญ มิฉะนั้นเราก็ได้แค่ส่วนหนึ่งของบุญคือทานเท่านั้น

บุญทุกประเภทเป็นตัวนำสุขมาให้ ทั้งโจรจะลักขโมยไปก็ไม่ได้ แต่สามารถนำติดตัวไปได้ด้วยแม้เมื่อตายไปแล้ว ไม่เหมือนทรัพย์สมบัติ ที่เมื่อตายแล้วก็ทิ้งไว้หมดสิ้นแม้แต่รูปร่างกาย ดังคำกลอนของสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสีที่ว่า
"มีเจ้ามามีอะไรมาด้วยเจ้า  เจ้าจะเอาแต่สุขสนุกไฉน
เมื่อเจ้าไปเจ้าจะเอาอะไร  เจ้าก็ไปมือเปล่าเหมือนเจ้ามา"

บุญย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม  ตราบเฒ่าชรา
ดอกสาละ


Sunday 1 January 2012

ลาปีเก่า .. รับปีใหม่ 2555



วันสิ้นปีมาถึงอีกปีแล้ว เราทุกคนล้วนผ่านสิ่งที่ทั้งชอบ ไม่ชอบ ดี ไม่ดี มาหลายเรื่องราว เราก็อยากจะจดจำสิ่งดีๆไว้ในความทรงจำ อยากลืมเรื่องไม่ชอบออกจากความทรงจำ คงจะง่ายและดีมากหากเราทบทวนตัวเองเพื่อให้รู้ว่าปีที่ผ่านมาเราได้ทำอะไรที่ดีๆ ควรแก้ไขอะไรที่บกพร่อง  และอยากทำอะไรดีๆต่อไป เพื่อปีใหม่ต่อๆไปเราจะได้มีเข็มทิศพาเราเดินสู่เส้นทางที่ถูกที่ควร ชีวิตจะอยู่เย็นและเป็นสุข

อย่าประมาทเดินหลงทาง..เพราะชีวิตนี้ไม่มีอะไรแน่นอน
เริ่มต้นที่จะสะสมสิ่งดีๆทุกๆวัน จะได้ไม่เสียใจเมื่อไม่มีโอกาสนั้นแล้ว

meepole ทบทวนตัวเองไว้เรียบร้อยแล้วค่ะที่

http://meepolen.blogspot.com/2011/12/2554.html

ลาทีปีเก่า  และ สวัสดีปีใหม่ 2555 :)