Sunday, 26 February 2012

แด่คุณครูอำพน จีนะทีปะ : ด้วยรัก และกราบขอบพระคุณ


คุณครูอำพน จีนะทีปะ  (85 ปี)
"ครูโชคดีที่มีครูดี "  ประโยคนี้ meepole ได้บอกลูกศิษย์ทุกรุ่นที่ meepoleได้สอน และแน่นอน meepole ย่อมมีเกณฑ์ในการยอมรับว่าใครเป็นครูดี   ที่บอกกล่าวประโยคนั้นเพราะ meepole เป็นครูที่รู้ตัวว่าตัวเองจริงจังกับการสอน ต้องการให้ศิษย์มีทั้งความรู้  ความคิดที่รอบด้าน เพราะ meepole สอนด้านสิ่งแวดล้อม จึงจำเป็นต้องให้เขามีสำนึก มีจิตสาธารณะ และที่สำคัญอยากให้เขาเก่งและดี  การตรวจงานทุกอย่างไม่ว่าวิชาใดจะรอบคอบ ตรวจอย่างละเอียด และให้แก้ไข จึงดูเหมือนเข้มงวดค่อนข้างมาก ....นิสัยส่วนนี้ได้รับอิทธิพลมาจากมี ครูดี ครูที่รักและเอาใจใส่ มีสำนึกครูในใจเต็มเปี่ยม

หนึ่งในหลายๆครูดีของ meepole คือ คุณครูอำพน จีนะทีปะ  ครูรู้จักแม่และเคยสอนแม่  ของ meepole  แม่เองก็ประทับใจในตัวครูมาก เล่าเรื่องครูจนเราเกรงกลัวตั้งแต่ยังไม่พบกัน ..ครูอำพนสอน meepole ตอนมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่โรงเรียนสตรีประจำจังหวัด ครูสอนวิชาภาษาอังกฤษ เป็นครูประจำชั้นด้วย และเป็นครูฝ่ายปกครอง จึงเข้มงวดมาก

ภาพที่ย้อนคิดไปแล้วติดตาจนปัจจุบันคือ ครูจะใส่ชุดเรียบร้อยมาก เสื้อสอดในกระโปรงคาดเข็มขัด  ครูไว้ผมสั้นตลอด ครูไม่เคยอ้วน ไม่ผอม และครูชอบถือไม้เรียว  ทุกเช้าจะเห็นครูยืนถือไม้เรียว ตรวจดูเด็กผิดระเบียบ กระโปรงเหนือเข่า ผมยาวพ้นติ่งหู กระโปรงเสื้อที่ผิดแบบ หูกระต่ายผูกผิด ถุงเท้า รองเท้า คุณครูตรวจหมด พวกนักเรียนกลัวครูมาก รวมทั้ง meepole ด้วย เวลาครูเข้าสอนภาษาอังกฤษจะต้องเงียบหมดแทบไม่กระดุกกระดิก ครูตั้งใจสอนมาก ครูลายมือสวยจริงๆ สิ่งที่จำได้แม่นครูเป็นคนเดียวที่ได้ลงโทษ meepole เพราะสมัยก่อนเรานั่งโต๊ะไม้จริง สี่เหลี่ยมมีช่องให้ใส่หนังสือ ใครนั่งตรงไหนก็นั่งประจำและนั่งเรียนกันเป็นคู่ ครูตรวจใต้โต๊ะด้วยว่าพวกเราซุกเศษกระดาษ ของกินอะไรๆหมกกันในนั้น ครูอำพนจะตรวจเสมอ ของเราชอบซุกขนม  บางชั่วโมงก่อนเรียนจะให้เอามือกางไว้บนโต๊ะ ตรวจเล็บก่อนเรียนว่าสะอาด เล็บยาวก็สั่งตัดเลย ทาเล็บหรือเปล่า สมัยก่อนพวกเราใช้ดอกไม้สีสดๆมาขยี้บนเล็บให้ติดสีกัน  ตอนเรียนตอบไม่ได้ก็กำมือเขกโต๊ะ  คุยมากก็คาบไม้บรรทัด  คาบนานจนน้ำลายยืดก็มี หุ หุ  แอบคุยต่ออีกก็โดนยืนแล้วคาบ ขั้นต่อไปกางปีกข้างเดียว กางปีกสองข้าง ยกขาหนึ่งข้าง กระโดดหยองแหยงเลย นี่เป็นการลงโทษของครู พวกเราส่วนมากกลัวครู พวกเราไม่เคยเกลียด เพราะรู้ว่าเราทำผิด ครูลงโทษ และเมื่อเล่าที่บ้านเขาก็จะบอกว่าครูทำโทษน้อยไปด้วยซ้ำ

เรื่องการสอน..ครูทำให้เราเรียนภาษาอังกฤษเก่ง ครูจะบังคับท่องศัพท์ ให้มาท่องให้ฟังทุกเช้าไม่ว่าเรียนหรือไม่เรียนต้องมาเข้าคิวท่องให้ครูฟัง  ครูสละเวลามาก ครูให้การบ้าน ตรวจการบ้าน และแก้การบ้านที่ทำผิดให้ถูกให้เข้าใจ (ตรงนี้meepole ยังดีไม่เท่าครูเลย)   คุณครูอำพนทำให้เราเก่งภาษาอังกฤษ ความกลัวครูดุ ทำให้ต้องเก่ง ความอยากให้ครูให้คะแนนเยอะๆจะได้เอามาอวดที่บ้าน ทำให้เอาใจใส่เรียนมากขึ้น จนเราเก่งภาษาอังกฤษมากในตอนเด็กจะได้คะแนน top หรือรองอันดับสองด้วยคะแนนสูงกว่า 80 เสมอ
ครูจะอบรมสั่งสอนเรื่องความเป็นกุลสตรีเสมอ จนพวกเด็กปากเสียอย่างพวกเรามักแอบนินทาครูที่ครูเป็นสาวโสด แต่พวกเราก็รักนวลสงวนตัว เป็นเด็กดีจริงๆ และพวกเราจะเป็นเด็กกลุ่มเรียนเก่งเพราะพวกเราอยู่ห้อง ก.ไก่ (สมัยก่อนมีห้อง ก-จ)  ทุกคนเมื่อจบมัธยมต้นก็แยกย้ายกันไปเรียนต่อ เราเองก็เรียนๆๆๆ อย่างเดียวจบป. ตรี ทำงาน เรียนป.โท ทำงาน แต่ตอนกลับมานั้นครูอำพนไม่อยู่ที่โรงเรียนแล้ว  ในที่สุดครูก็เกษียณตามวัย เราก็รู้ข่าวครูเป็นระยะ นานๆครั้ง  meepole มักคุยเรื่องครูกับแม่เช่นกัน........เราเคยแวะถามหาบ้านครู และหาจนเจอ เคยคุยกับครูครั้งหนึ่งตอนจบป.โท ทิ้งห่างไปนานมาก  แวะไปหาอีกครั้งตอนกลับจากเรียนป.เอก  แต่ใจที่ระลึกถึงครูนั้นไม่เคยจางหาย เมื่อได้โอกาสก็แวะเยี่ยมเยือนท่านในวัยที่ท่านชรา ท่านจำศิษย์คนนี้ได้แม่นยำมาก ครูถามเราเมื่อครั้งหลังที่ไปคุยว่าสมัยก่อนครูเป็นยังไง ดุไหม  เราก็เล่าให้ฟัง ครูก็หัวเราะมีความสุข ...เราขอถ่ายรูปครูบอกว่าขออนุญาตนำเรื่องครูไปเขียน เอารูปครูมาลงเผยแพร่นะ ครูหัวเราะ ครูเล่าเรื่องความหลังสมัยสงครามโลกที่หนีระเบิดญี่ปุ่นลงหลุมหลบภัย ..ในวัย 85 ปี  ครูมีความจำดีมาก หูตึงเล็กน้อย สายตาพอใช้  บวกเลขเก่ง (แซว !เพราะครูรำพัดกับสหายเพื่อแก้เหงา สมองไม่ฝ่อ)  meepole ดีใจที่ได้เห็นครูทดลองใช้ไม้เท้าที่เอาไปฝากเพราะกลัวครูเดินหกล้ม ครูเดินให้ดูแล้วหัวเราะ

ไปหาครูครั้งสุดท้ายคือวันครูที่ผ่านมา (16 มกราคม)  เอาพวงมาลัย card ขอบคุณที่ครูสั่งสอนเราจนมีวันนี้ ไปกราบที่อกครู แม้ครูจะเจ็บป่วยมาก แต่สุดท้ายครูพยายามจนนึกเอ่ยเรียกชื่อ meepole ได้อีกครั้ง เป็นสิ่งที่meepole ตื้นตันใจนักว่าครูรับรู้ว่า meepole มาเยี่ยมกราบ  ครูน่าจะภูมิใจในตัว meepole เช่นกันที่ลูกศิษย์ที่ท่านได้ปั้นมานั้นเป็นคนดี เป็นครูดี มีการศึกษาและมีอาชีพหน้าที่เจริญรอยตามท่าน..นี่เป็นสิ่งที่ตอบแทนพระคุณได้ เพราะเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ครูต้องการ และอีกเรื่องที่แอบดีใจเพราะไม่เคยคิดมาก่อนคือการบันทึกเรื่องราวของคุณครูอำพนนี้ ทำให้มีชื่อของท่านปรากฏในโลกออนไลน์เป็นครั้งแรก และมีคนค้นเจอชื่อของอาจารย์ (หลานชายของครูบอก) และทราบเรื่องราวชีวิตของท่าน  ดีใจจริงๆ ที่คุณครูจะยังอยู่จารึกในสังคม ให้ทั้งศิษย์และคนที่ไม่รู้จักได้รู้จักคุณครู

แม้ว่าครั้งสุดท้ายเมื่อวานนี้ (25 กพ.) ที่ตั้งใจไปเยี่ยมคุณครู และทำให้ได้รับทราบว่าครูเสียชัวิตแล้วอย่างสงบที่บ้านด้วยวัย 85 ปี  เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2555  ไม่ได้พบครูอีกแล้ว ได้แต่ยืนประนมมือบอกครูที่อยู่ในโกฎิที่หน้าห้องว่า ครูขาหนูมาเยี่ยมค่ะ..........

คุณครูได้ทำหน้าที่ด้วยจิตวิญญาณที่เป็นครู เป็นเหมือนแม่พระของศิษย์ ที่ส่องนำทางที่ถูกต้องให้  รุ่นแล้วรุ่นเล่า ....แม้ครูจะไม่เคยได้ ครูดีเด่น  ครูแม่แบบ และอีกสารพัดตำแหน่งที่จัดสรรให้กันในสังคมยุคใหม่นี้ แต่ครูคือ ครูดีที่แท้จริง ครูที่ศิษย์ยกย่องและยอมรับนับถืออย่างจริงใจ  ครูที่ศิษย์หลั่งน้ำตาเมื่อครูจากไป ครูที่ศิษย์จะเก็บไว้ในความทรงจำตลอดไป  อยากกอดครูอีกครั้งแล้วบอกว่า ครูขาหนูดีใจที่ได้เป็นลูกศิษย์ครูค่ะ กราบขอบคุณสำหรับความเมตตาที่ให้แก่ศิษย์ค่ะขอให้คุณครูหลับให้สบาย คุณความดีในความเป็นครูที่แท้ สร้างศิษย์ออกสู่สังคมมากมาย เป็นพลังบุญส่งให้ปฎิสนธิวิญญาณครูไปสู่สุขติภพเบื้องหน้า  meepole จะไม่ลืมพระคุณไปชั่วชีวิต จะเป็นคนดี ทำแต่ความดี และจะทำบุญอุทิศให้อาจารย์ตลอดไป  

หมายเหตุ  วันนี้ (26 กพ.) เป็นวันครบรอบ 1 เดือนที่ครูจากไป  meepole จึงขอเขียนบันทึกนี้เพื่อบูชาครู แทนการที่ไม่ทราบข่าวจึงไม่ได้ไปร่วมงาน ไม่ได้ไปร่วมเป็นเจ้าภาพงานศพ  และไม่ได้ทำหนังสืองานศพให้คุณครูนี่คือความตั้งใจไว้ ด้วยไม่คาดคิดว่าครูจะจากไปเร็วนัก

Meepole ได้เคยเขียนถึงครูไว้ที่นี่
25 Feb: คุณครูอำพน จีนะทีปะ ..ขอคุณครูสู่สุขคติ

16 Jan :วันครู ไปกราบคุณครู
http://meepolen.blogspot.com/2012/01/16-jan.html

http://www.gotoknow.org/blogs/posts/420414


Monday, 13 February 2012

หากคิดจะรัก คิดให้ดี ..คิดให้ถูก ..คิดให้เป็น

ในโลกนี้มีคนมากมาย ที่ได้ทำลายสิ่งดีๆที่มีในตนไปอย่างคาดไม่ถึง เพียงเพราะความประมาท ขาดสติ อารมณ์ชั่ววูบ และความมักง่ายในชีวิต


อะไรที่ทำไปแล้ว ย่อมเรียกกลับคืนมาไม่ได้ แม้วันนั้นเราจะบอกว่า ช่างมันฉันไม่แคร์ ! ก็เถอะ มันก็หนีความจริงไม่พ้น และพร้อมที่จะกลับมาเตือนความจำทุกเมื่อ


ก่อนจะทำอะไรลงไปให้ คิดถึงพ่อแม่ ผู้มีพระคุณ คนที่รักเราจริง ไม่ว่าหญิงหรือชาย  อย่าปล่อยชีวิตไหลไปตามกระแส หากสิ่งนั้นไม่ถูกต้อง ปลาเป็นย่อมว่ายทวนน้ำ ฉันใด เราเป็นคนแท้ๆ ไม่ควรนำชีวิตตนไหลลงสู่ที่ต่ำ ต้องฝืนต้านความรู้สึกที่อยากลอง อยากทำ ในสิ่งที่ไม่ควร หากผ่านพ้นจุดนั้นมาได้ เมื่อมองกลับไป จะรู้ว่าสิ่งที่เราฝ่าฟันมาได้นั้นคุ้มค่า และน่าภูมิใจจริงๆ


รักแท้ เป็นรักของพ่อแม่ บุพการี    คนอื่นมากมี เพียงแค่ผ่านมา
ชีวิตเรามีค่า จึงต้องรักษา           พ่อแม่ให้มา อย่าด่วนสู่อบาย    

(แต่งได้ ฝืดมาก meepole แม่เอ๊ย!  หุ หุ ขอขำตัวเองหน่อยค่ะ :)


ขอเพียงแต่ คิดให้ดี ..คิดให้ถูก ..คิดให้เป็น อย่าตามกระแสสื่อ ที่ไม่รู้ว่ารู้ตัวหรือไม่ว่าเป็นผู้กระพือกระแสต่างๆ จนเป็นดาบสองคมแท้ๆไปแล้ว


สวัสดี วันวาเลนไทน์ วันที่ไม่ไช่ประเพณี หรือเป็นวัฒนธรรม ของชาติไทยเลย

..อิ่มใดๆ โลกนี้มิมีเทียบเทียม
อิ่มอกอิ่มใจ อิ่มรักลูกหลับนอน
น้ำนมจากอก อาหารของความอาทร

แม่พร่ำเตือนพร่ำสอน สอนสั่ง
ให้เจ้าเป็นเด็กดี ให้เจ้ามีพลัง
ให้เจ้าเป็นความหวังของแม่ต่อไป..



Sunday, 5 February 2012

พ้น แล้ว โว้ย !

พ้น แล้ว โว้ย!



กรุณาอย่าเพิ่งตำหนิในใจว่าทำไม ขึ้นชื่อเรื่องเช่นนี้ ก็เพราะมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ เปิดปฎิทินคำกลอนท่านพุทธทาส "อยู่อย่างมีสุข" หน้าสุดท้ายเดือนธันวาคม  มีกลอนธรรมชุดนี้ เห็นว่าเข้ากับรูปที่มีเลยเอามา

"สุขแท้จริงต้องไม่วิ่ง วนในโลก      
     ต้องเหนือความทุกข์โศก  ทุกกระแส
มือเท้าเหนียว เหนี่ยวขึ้นไป คล้ายตุ๊กแก  
   ไม่อยู่แค่  พื้นโบสถ์  โปรดคิดดู"




ลูกตุ๊กแกตัวนี้ meepole ช่วยชีวิตเขาไว้ เพราะเจ้า  pote' ตัวดีกัดตายเกือบหมด เผลอไม่ได้ เหนื่อยใจจริงๆ