Tuesday, 27 March 2012

จบวัน ที่ตรงไหน


by meepole

หลายคนคงเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า " เริ่มต้นดี มีชัยไปกว่าครึ่ง"  แต่สำหรับ meepole แล้ว การจบวัน ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน และ meepole ก็ให้ความสำคัญกับ "การจบวัน" มากกว่าการเริ่มต้นวัน  เสียอีก เพราะการเริ่มต้นวันนั้น ง่ายๆบอกกับตัวเองจนไม่ต้องบอกแล้วว่า "มงคลสูตรข้อ1" แค่นี้สติก็เกิดได้ทั้งวัน แต่ทั้งนี้ก็นาๆจิตตังแล้วแต่วิถีชีวิตที่แต่ละคนเลือก


ขอทำความเข้าใจก่อนว่า คำว่า "การจบวัน" ในที่นี้คือ "การหมดวันในแต่ละวัน " มีใครเคยรู้สึกหรือสังเกตุไหมคะว่า ในแต่ละวันของเรา อะไรเป็นตัวบอกว่า จบอีกวันแล้ว หรือ "เฮ้อ! หมดวันเสียที" แล้วคุณทำอะไรเพื่อต้อนรับการหมดวัน หรือเปล่า นั่นคือประเด็นของเรื่องนี้


คนหลายๆคนไม่ได้สนใจอะไร ไม่คิดอะไร ชีวิตก็ผ่านไปวันๆ บางคนก็แบบหาเช้ากินค่ำ รู้ว่าเช้าวันใหม่แล้วเพราะไก่ขัน นกร้อง เสียงรถจอแจ แสงแดดส่องเข้าห้องฯ  ส่วนเย็นก็ พระอาทิตย์ตกดิน นกกลับรัง ทานข้าวมื้อเย็น  หรือไม่ก็ล้างจาน ปิดโทรทัศน์เข้านอน เป็นการจบเย็น ของหลายๆคน


ของ meepole การเริ่มจบเย็นมี 3 ช่วงคือ ช่วงประมาณ 5 โมงเย็นให้อาหารเด็กๆ 4 ตัว หลังจากนั้นเก็บกวาดเล็กน้อย อาบน้ำ ลงมาเขียนหนังสือต่ออีกรอบ จนไกล้ 2 ทุ่ม ขึ้นไปไหว้พระสวดมนต์  เป็นส่วนกิจกรรมของวันที่จิตกำหนดรู้ตัวว่า "จบวัน "  ขอพรพระ แผ่เมตตา อุทิศกุศลอานิสงส์จากการสวดมนต์ให้บรรพบุรุษ ผู้มีพระคุณ เจ้ากรรมนายเวร ฯ  ดับเทียน  นี่จิตจะบอกว่า "จบวัน" แล้วจ๊ะ   แล้วจะลงมานั่งหน้า TV เขียนหนังสือต่อ อันนี้เป็นส่วนสบายๆที่ทำต่อ ...เขียนจนไกล้เวลานอน จะเล่นเกมส์ต่อโซ่อีกเล็กน้อยพอแพ้มันก็เข้านอน หุ หุ


 ทุกครั้งที่เตรียมจะเริ่มสวดมนต์เย็น จุดเทียน ธูป ปักธูป ก้มลงกราบพระพุทธ มองที่องค์พระก็จะรู้สึกดี อิ่มใจ (ลองดูภาพที่ให้มาก็ได้ค่ะ)และขอบคุณโอกาสที่ได้เกิดเป็น มนุษย์ เป็นชาติเดียวที่ได้มีโอกาสสวดมนต์ ต่อบุญ อุทิศให้ใครต่อใครได้ หากเกิดเป็นสัตว์ใดๆ คงไม่ได้มีโอกาสดีเช่นนี้ และทุกครั้งที่สวดมนต์เสร็จ จะรู้สึกดีๆ จิตสงบสบาย ปลอดโปร่ง รู้สึกขอบคุณ ที่ชีวิตแต่ละวันพบแต่ความสงบ แม้วันไหนที่จำเป็นต้องออกนอกบ้านก็ตั้งจิตขอพบแต่คนดี (เลยไม่ค่อยได้พบใครนัก หุ หุ) แม้วันไหนที่เข้ามหาวิทยาลัย หากมีคลื่นมากระทบ (เพราะเป็นที่รวมทั้งบัณฑิต และอบัณฑิต)  แต่ไม่กระเทือนเพราะมีเกราะที่ดีกั้นป้องกันไว้เสมอ กำแพงบุญที่ค่อยๆก่อไว้จะเป็นด่านป้องกัน สะท้อนสิ่งไม่ดีออกไปเอง โดยไม่รู้ตัวในบางครั้ง แต่ผ่านไปด้วยดีเสมอ ขอให้ยึดและทำในสิ่งถูกต้องไว้ (มักมีคนมาบอกภายหลัง และบอกว่าอจ.โชคดีที่ไม่โดน เพราะส่วนมากโดนกันแล้ว)  แค่รับรู้ (บางทีแอบยิ้มอีกต่างหาก ว่ากุศลช่วยอีกแล้ว) แล้ววางที่นั่น ไม่เคยเข้าถึงในจิตส่วนลึกได้  (แต่สามารถเอามาเขียนถ่ายทอด เพื่อเป็นอุทธาหรณ์ สะท้อนชีวิตบ้าง เขียนจบ ก็หมดลบทิ้งกันไป)


ขอให้ทำความดีไปเรื่อยๆเหมือนการเติมน้ำใส่ตุ่ม ไม่ต้องไปสนใจว่ามีน้ำมากแค่ไหนแล้ว หมั่นเติมใส่ทุกวัน ตั้งแต่ 1 หยดถึง 1 ขัน เติมเรื่อยๆ วันหนึ่งก็จะเต็ม มีให้เราดื่มกิน มีเหลือเผื่อแผ่ให้คนอื่นมาตักกินด้วยเป็นความสุข 2 เท่า ขอให้ตั้งใจจบวันให้ดี ขอผลบุญที่ได้ทำในแต่ละวันที่ได้ทำแล้ว (หากไม่แน่ใจย้อนกลับไปอ่านเรื่องการทำบุญ 13 ตอน ที่เขียนแล้ว) หนุนส่งให้ได้พบในสิ่งที่ดี เป็นมงคลแก่ชีวิต และมีชีวิตที่สงบเย็น ขอให้ตั้งใจมั่นแล้วจะได้สิ่งดีๆนั้นจริงๆค่ะ ขอยืนยัน

 หากใครคิดหรือรู้สึกว่าชีวิตแต่ละวันวุ่นวายหนอ ทุกข์หนอ ลองมาเริ่มจบวันกันด้วยการกำหนดสติ และอุทิศบุญ แผ่เมตตา กันทุกวันนะคะ แล้วชีวิตจะเปลี่ยนแปลง ค่ะ :)

ที่มาภาพพระพุทธ: myspace.com