Monday 27 August 2012

เรื่องเรียนรู้จาก..ชาบู 1

 
My dear "Chabu"... my best friend
 


ช่วงนี้ ตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว ( 31 สค.) ชาบูไม่สบาย ตอนนั้น meepole ไปตจว.เหลือ link อยู่บ้าน ก็โทรไปบอก ว่าชาบูขาบวมมาก ก็เลยบอกให้พาไปหาหมอเพราะไม่แน่ใจว่าเขาโดนอะไรกัดหรือเปล่า เป็นห่วงเขามาก ก็โทรถามเป็นระยะ หมอบอกว่าไม่น่าจะโดนอะไรกัดก็โล่งใจ แต่กังวลเพราะยังไม่รู้สาเหตุ  ตั้งแต่นั้นชาบูเริ่มไม่แข็งแรง หลังจากเรากลับมาเห็นชาบูอาเจียน เป็นสีเหลืองข้นๆ เราก็คาดเดาว่าชาบูน่าจะเป็นตับ อักเสบ ถ่ายรูปอาเจียนและอุจจาระ ไปให้หมอ CK ดู เขาบอกว่า ก็ให้มันอาเจียนบ้างไม่เป็นไร บางครั้งหมาก็ต้องอาเจียนบ้าง เราเลยพูดไม่ออก เพราะหมอน่าจะรู้ดีกว่าเรา เลยพาชาบูกลับบ้าน อีกสองวัน เช่้าตรู่ทุกวันชาบูจะต้องขึ้นกระไดมานอนตรงขั้นที่ 2-3 แล้วกระดิกหาง ดังปอกๆๆๆ เคาะพื้นไม้กระได แต่วันนั้นไม่เห็นชาบู แต่กลับเห็นชาบูยืนนิ่งๆ หางตก เรารู้ทันทีว่าเกิดความผิดปกติกับชาบู แต่มันเป็นวันอาทิตย์ เลยโทรหาชนกว่าเปิดคลินิกหรือไม่ แต่เขาไม่เปิด เลยพาชาบูไปรพ.สัตว์ขาวผ่อง เขาเจาะเลือด ให้น้ำเกลือ และให้สังเกตุอาการ ให้ฝากที่รพ.ก่อน แม้ไม่สบายใจนักแต่ต้องยอมเพราะอยากให้ชาบูแข็งแรง เลยฝากไว้ดูอาการ ไม่เข้าใจนักส่วนมากที่ฝากสุนัขจะมีกลิ่นเหมือนๆกันหมด กลิ่นสาบๆแปลกๆ เรากลับบ้าน  ตอนเย็นแวะไปเยี่ยมพร้อมผ้าปูนอนและหมอนไปให้ชาบูให้เขาคุ้นๆ เอาทองหยอดและตับไปให้ เขากินได้เราสบายใจ..วันรุ่งขึ้นไปเยี่ยมอีกปรากฎว่ารพ.ยังไม่เปิด บอกว่าเปิด 8.00น. แต่เราไป  8.25 น.ก็เลยกลับ ตอนสายโทรไปถามว่ารับกลับได้ไหม เขาบอกว่าต้องอยู่ 3-4 วัน เราบอกไม่ได้หรอกชาบูติดบ้านมาก ขนาดออกไปเดินในสวนพอฉี่ อึเสร็จก็จะรีบเข้าบ้านทันที
 
 ชาบูเป็นหมาฉลาดใครว่าหมาจะจำคำศัพท์ไม่ได้มาก เราว่าน่าจะไม่จริง เพราะชาบูจำชื่อเพื่อนๆหมาได้ทุกตัวที่เขาเคยรู้จัก เช่นบอกไปบ้านพี่อ้อน พี่เกอร์ เขาวิ่งไปถูกบ้านนำหน้าก่อนเลย ชาบูเรียนรู้คำสั่งเป็นภาษาอังกฤษตั้งแต่เด็ก เช่น go, come, wait, up, no, sit, drive, go car, eat, milk, bed, sleep, insect  etc.   ตอนนี้ชาบูอายุ 5 ขวบ ชาบูชอบจับแมลงต่างๆที่หลงเข้าบ้านมา ซึ่งก็มากเสียด้วย มีทั้งต่อ แตน ผึ้ง หมาร่า ผีเสื้อ แมงปอ แมลงภู่ สารพัด แมลงปีกแข็ง หิ่งห้อย เป็นต้น meepole มีส่วนผิดด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ที่เมื่อชาบูวิ่งไล่จับแมลงก็จะชี้แล้วหัวเราะว่า insect ๆๆๆ ซึ่งรู้ว่าชาบูกัดงับไม่ได้หรอกเพราะเขาตัวเล็กเตี้ยอีกต่างหาก เคยเห็นบางครั้งนานมากจริงๆที่บังเอิญมันบินต่ำตกลงแล้วชาบูงับได้ แต่หาก meepole ทันเห็นก็จะบอกเขาว่าไม่งับนะ เดี๋ยวถูกต่อย แต่จริงๆแล้วอันตรายมากสำหรับหมา เพราะตอนนี้ที่ชาบูป่วย หมอก็บอกไม่ได้แน่ชัดว่าชาบูเป็นอะไร  เขาถูกอะไรกัดหรือเปล่าที่ขาบวมมาก เป็นครึ่งเดือนแล้วรักษาไม่หาย ไปรพ.สัตว์ก็บอกไม่ได้  ล่าสุดหาหมอชนก ให้สารพัดยา วินิจฉัยทุกวิธีที่ทำได้ เจาะเลือด ตรวจเชื้อ test kit สำหรับตรวจเชื้อเฉพาะ  x-ray ดูก้อนเนื้อที่ใต้อกเขา ที่ขา ทำให้เห็นว่าที่แนวปอดเขามีเส้นขาวๆเป็นกระจุกๆ  ไม่แน่ใจว่าเป็นก้อนเนื้อพวกมะเร็งก่อตัวหรือไม่ ตลอดที่ผิวหนังชาบูมีก้อนสีชมพูขึ้นเป็นระยะๆ แถวสะโพก กลางหลัง ใหญ่บ้างเล็กบ้างเป็นก้อนสีชมพูอ่อน หมอก็วินิจฉัยว่าอาจเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองซึ่งถ้าไช่ก็น่ากลัวมาก หมอจ่ายยาแต่ละครั้งเยอะมาก จนสงสารชาบูที่ต้องทรมาณ  meepole คนให้ยาก็เครียดเพราะต้องพยายามหลอกล่อให้กิน ตัด หักเป็นชิ้นเล็กใส่ในขนมสารพัดที่ชาบูเคยชอบ ทองหยิบ ทองหยอด จนเขากัดเจอเลยกัดแล้วคายมาพิสูจน์ไม่กินอีกเลย จุกในขนมเค็ก สาลี่ จนไม่กิน จุกใส่ตับ หมูอบ ทุกอย่างในที่สุดรู้ทันหมด หมดปัญญา ต้องจุกยา ไม่อยากทำเลย ยาน้ำสองขนาน ก็ใส่หลอดฉีดยาค่อยๆป้อน ยาเม็ดที่บดได้บดคลุกกับ gel ป้ายที่เพดานปากให้เลีย  เครียดในชีวิตก็ตอนนี้ล่ะ
 
  นั่นแน่ !  เห็นนะ chabu ว่าคิดจะทำอะไร อิอิ
 
 
 เห็นชาบูไม่สบาย เห็นการทรุดของสุขภาพทุกวัน เห็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา จริงๆ ได้ข้อคิดที่ประจักษ์แจ้ง ย้ำความรู้ที่ศึกษาและมีมา และใช้ฝึกจิตตัวเอง ให้เข้มแข็งขึ้น  ยอมรับการต้องพลัดพรากจากสิ่งที่รัก day by day ที่ก่อนนอนต้องบอกว่า "ชาบูหม่ามี้ไปนอนก่อนนะ พรุ่งนี้มาเจอกันอีก"  ชาบูตอบรับด้วยการกระดิกหาง ตอนเช้าจะรีบตื่นลงมาดูชาบู เรียกเขาเห็นเขากระดิกหางก็สบายใจ ทุกเช้าชาบูจะขึ้นกระไดมานอนรอ ตอนนี้ไม่มีแล้ว ชาบูไม่มีแรงขึ้นกระได...เป็นการรับรู้การเปลี่ยนแปลงแรกที่เกิดขึ้น เป็นความรู้สึกเศร้าที่ชาบูไม่แข็งแรงเหมือนเดิมอีกแล้ว...นับแต่นี้