ชาบูและเพื่อนร่วมบ้าน
ช่วงที่ชาบูไม่สบาย ตั้งแต่ 30 กรกฏาคม 2555 เป็นๆหายๆ หาหมอ 3 ราย ไม่ได้ตั้งใจจะเปลี่ยนหมอ แต่ด้วยความจำเป็นที่หมอรายแรกไม่เอาใจใส่ เอารูปถ่ายอาเจียนสีเหลืองอ๋อยไปให้ดู กลับบอกว่าให้มันอาเจียนบ้างก็ได้ ทั้งๆที่เวลาหมาเราหรือหมาของวัดป่วยก็เอามาให้ที่นี่ดูแล จ่ายไม่อั้นทุกอย่างเสนออะไรดีเอาหมด ชาบูเป็นหมาไม่ค่อยป่วย เคยป่วยครั้งที่เห็นว่าป่วยก็เกือบปีที่เป็นโรคตับรักษากับหมอ CK เช่นกันจนหายดี หลังจากนั้นก็ระวังไม่ให้เขาโดนเห็บหมัดกัดเท่าที่ทำได้ ..........กับหมอรายนี้เราสังเกตเห็นหลายครั้งแล้วเวลาพา yiching, larna, pote, chabu etc. ไปหา หากเราพูดสังเกตุอะไรเพื่อตั้งคำถามเกี่ยวกับหมา เขาจะบริการอย่างรวดเร็วมาก เช่นเห็นชาบูสะบัดหูบ่อยๆ ไม่แน่ใจว่ามีอะไรในหู เพราะเท่าที่ตรวจดูเองก็ไม่มีอะไร เท่านั้นเองหมอจะไปหยิบยาหยอดหูเปิดฝาบริการหยอดให้ดูทันที แล้วก็คิดเงิน เคยบอกชาบูและ yiching มีขี้ตาทุกเช้า บางวันมาก อุ้ม yiching ไปให้ดู ก็เร็วทันใจเดินไปหยิบยาหยอดตา บอกว่าเป็นเชื้อ...เปิดฝาบีบคิดเงิน หลอดละ 900 บาท ได้ทั้ง 2 ตัว 1800 บาท เราไม่ว่าอะไร หากเขาหาย ล่าสุดขายยาหยอดเห็บหมัด ยาปกติที่ใช้จะหลอดละ 50 บาท 1 ml ถ้า 2 ml ตัวใหญ่ก็ 80-100 บาท ของที่นี่พิเศษ เพราะบอกว่าของแท้ 200 กว่าบาท เราก็จ่ายอยากให้เป็นอันตรายน้อย ครั้งนี้เห็นความไม่เอาใจใส่ต่อชาบูทำให้เรารู้สึกมากทีเดียวว่า "นี่เขาเป็นสัตวแพทย์ ความอ่อนโยน เมตตาที่ต้องมีในพื้นฐานจิตใจระดับปกติของผู้เป็นหมอไปไหน ความสำนึกรับผิดชอบเอาใจใส่ที่ควรต้องมีต่อคนไข้ของเขาไปไหน ความเข้าใจเห็นอกเห็นใจในเจ้าของของสัตว์เลี้ยงที่เขารักนั้นไปไหน" เขาน่าจะรู้ว่าเจ้าของสัตว์เลี้ยงยอมจ่ายทุกบาททุกสตางค์แพงเท่าไหร่ไม่ว่าขอให้สัตว์เลี้ยงที่รักมีความสุข หายป่วยโดยเร็ว.......
..meepole จึงเปลี่ยนต้องพาไปรพ.เมื่อชาบูมีอาการป่วยไม่มีแรงล่าสุดในวันอาทิตย์ที่สัตว์แพทย์ส่วนมากปิด จึงต้องพาไปรพ.สัตว์เอกชน ให้น้ำเกลือ เจาะเลือด ให้ยามามากมาย ไม่เห็นอาการดีขึ้นนอกจากทรมานจากการกินยา เขาต้องการให้ชาบูอยู่รพ.4-5 วัน แต่meepole รู้ว่าทรมานใจชาบูเพราะเขาย่อมไม่อยากอยู่เพราะบริเวณที่เขาเก็บหมาหลังคลีนิก อับเหม็นและร้อน กรงก็เล็ก ไม่รู้เหมือนกันว่าการตั้งเป็นโรงพยาบาลสัตว์ต้องมีเงื่อนไข การควบคุมคุณภาพหรือไม่ หากไม่มีอะไรเลย จะต่างอย่างไรกับคลีนิก เพราะที่เห็นนี่คลีนิกของบางแห่งดีกว่ารพ.ที่พาไป ชาบูไม่เคยอยู่กรงตั้งแต่เด็ก ที่นี่ชาบูอยู่หนึ่งคืนครึ่งวัน ค่ายาและค่าใช้จ่ายรวม 3800 บาท และต้องพาเขาไปเจาะเลือดอีกครั้ง เลยพาไปหาหมอที่เคยพาชาบูไปฉีดวัคซีนประจำปี
ชาบูในคืนสุดท้าย
หมอรายที่สามนี้ใครๆก็ยอมรับว่าค่อนข้างแพง แต่มียาดีๆ มีเครื่องมือที่ใช้ตรวจค่อนข้างทันสมัย และอย่างน้อยก็เป็นลูกศิษย์ meepole (แม้ว่าเคยละเลยหมาของวัดทีใกล้คลอดจนตายทั้งแม่ลูกไป 8 ตัว) meepole เลยไม่ไปหาเป็นปีแล้วเพราะยังเสียความรู้สึกและเสียใจ แต่ครั้งนี้เพราะเป็นห่วงชาบูมากเลยต้องไป และก็ได้เจาะเลือด x-ray ให้ยาที่แพงๆแต่บอกว่าคาดว่าจะทำให้ดีขึ้นเพราะคาดว่าเป็นโรคตั้งแต่ติดเชื้อจนถึงมะเร็งน้ำเหลืองบ้าง ปอดบ้าง คาดการณ์ไม่แน่ชัด meepole บอกหมอว่ารักษาให้ดีที่สุด แต่หากคิดว่าเขาไม่รอดก็ขออย่าให้พยายาม up ยาเขาเลย เพราะเห็นแล้วทรมานเขามาก เขาก็บอกว่าทดลองให้ยาที่คิดว่าดีมากคือ Antitirobe (clindamycin hydrochloride liquid) ขวดละ 340 บาท ปริมาณ 20ml ชาบูได้มา 2 ขวด มียาปฎิชีวนะหลอดเป็นครีมสีน้ำตาล อาหารเหลว veterinary diet- recovery กระป๋องละ 145 บาท 195 g มียาเม็ดอีก 3 ขนาน ไปหา 4 ครั้งใน 2 week เพราะไปตามนัด 3-4 วันครั้ง มียาฉีดด้วย
ชาบูอดทนมาก meepole รู้ว่าเขาคงเจ็บเพราะตอนอุ้มบางครั้งหากไปถูกบางจุดชาบูคงเจ็บจึงร้องซึ่งปกติชาบูที่อยู่กันมาแทบจะไม่ได้ยินเสียงร้องของเขาเลย เขาเป็นหมาที่อดทนมากจริงๆ เวลาพาชาบูไปร้านหมอชาบูจะไม่เคยกลัวหมอจะเห่านำทุกครั้งเมื่อเข้าร้าน ไปตัดขนก็เห่าก่อน จนหมอและคนในร้านพูดเลยว่าชาบูมาแล้ว เพราะส่วนมากหมาเข้าร้านหมอจะเงียบบางตัวกลัวด้วยซ้ำ ........
ขณะเขียนตอนที่ 1 ชาบูมีอาการทรง คือกินน้อย เดินน้อยลง ขับถ่ายน้อยลง การหายใจลำบากขึ้น นอนมากขึ้น แต่รับรู้ทุกอย่างเวลาพูดด้วย เดินไปไหนนานๆ ชาบูจะลุกเดินตามไป จนต้องบอกว่าชาบูไม่ต้องตาม meepole ถามหมอว่ารักษาอย่างดี เขาจะอยู่ได้อีกสัก 5 ปีไหม หมอก็ยิ้ม ว่าต้องดูอาการตอบสนองยา meepole ก็บอกว่าทำให้ดีที่สุดแต่หากหมอรู้ว่าไม่ไหว ขอให้เขาได้อยู่อย่างสบาย อย่าทรมานด้วยยา เพราะเหมือนคนที่หากรู้ว่าไม่รอดก็ไม่ต้องฉีดคีโมขอให้ชีวิตที่เหลือไม่ทรมานจากผลของยา สองวันหลังชาบูไม่ถ่าย ไม่กิน meepole พยายามหาของทุกอย่างที่ชาบูชอบมาให้เขาก็พยายามแต่สังเกตเห็นว่าการกลืนมีปัญหา คาดเดาว่าทำให้เขาไม่กิน การหายใจแย่ลง แต่ชาบูยังคงมานอนข้าง meepole ข้างโต๊ะทำงานตลอดเวลา คืนวันที่ 27 สค. ตั้งใจว่าจะพาชาบูไปหาหมอ บอกชาบูว่าพรุ่งนี้จะพาไปหาหมออีกเพราะสังเกตเห็นชาบูกลืนลำบาก กระทั่งยาน้ำที่ป้อนให้ เลยหยุดป้อน
meepole จะนั่งทำงานที่ชั้นล่างจนดึกเสมอเพื่ออยู่เป็นเพื่อนชาบู เป็นเช่นนี้ตลอดมาหลายปี ทุกคืนจะบอกว่า "ชาบูม่ามี้ไปนอนแล้วนะ พรุ่งนี้จะพาชาบูไป driveๆๆ" (นั่งรถเที่ยว) ชาบูชอบมากจะกระดิกหางรับ และ"ไปหาพี่ วาวา" (พี่หมาที่ชาบูสนิทมากตั้งแต่เด็กอยู่กับพระอาจารย์) ชาบูจะกระดิกหาง "พรุ่งนี้เจอกันนะชาบู" นี่คือคำพูดที่พูดกะชาบูเกือบ 4 ปี หากไปต่างจังหวัดจะโทรศัพท์มาแล้วให้ link (สามี) ส่งแนบหูชาบู แล้วพูดกะชาบูว่า "คิดถึงนะชาบู" สุดท้ายที่ชาบูป่วย จะบอกชาบูเพิ่มขึ้นว่า ”ชาบูม่ามี้รักชาบู รักมากนะ ชาบูรักม่ามี้ชิมิชิมิ เรารักกันนะ เรารักกัน" แล้วก็จะกอดเขา ตอนป้อนยาจะบอกว่า “ชาบูต้องอดทนกินยานะ จะได้อยู่กะม่ามี้นานๆ กินยาให้ม่ามี้ ให้ปู่ ให้ปู่ปู๊นะ” ทุกอิริยาบทชาบูจะรับรู้จากสายตาที่ส่งมา
เช้าวันที่ 28 สิงหาคม 06.30 น meepole ลงมาเห็นชาบูนอนตะแคง เอะใจเพราะไม่มีการกระดิกหางเหมือนทุกครั้ง เรียกชื่อ "ชาบูๆๆๆ บ๊ะบู๋" ลงมาจับตัวเขา ยังอุ่นแต่ไม่หายใจ วิ่งขึ้นไปตาม link ลงมาตรวจดู จนเขาแน่ใจบอก meepole ว่าชาบูไปแล้ว meepole ร้องให้ด้วยความอาลัยถึง เพื่อน มิตรแท้ที่ดีที่สุด บริสุทธิ์ ซื่อสัตย์ จริงใจ ไม่มีพิษภัยใดๆ ไม่โกหก ต่อแต่นี้ไม่มีแล้ว…. Link ทำความ (ผ้าเช็ดตัวในชุดสังฆทานให้ชาบู) สะอาดตัวชาบู เช็ดตัวชาบูให้สะอาด ใส่ใบชาหอมมะลิให้ เอาหมอนข้างที่ชาบูชอบคาบไปมา นอนหนุน ให้ชาบูกอด โรยดอกพุดสีขาวที่มีในสวนให้ แล้วห่อด้วยผ้าที่พระอาจารย์ให้มาล่วงหน้า (ซึ่งชาบูใช้นอนหนุน) หลังจากนั้นทำสังฆทานให้ ช่วงบ่ายพระอาจารย์มารับชาบูไปฝังที่สวนในกุฎิด้านหน้า meepole และ link ตามไปด้วย ให้น้าหลวงจัดมาบังสุกุลให้
ชาบูและบ๊องแบ้ว เพื่อนตุ๊กตาของชาบูที่คาบไปมาและชาบูหวงมาก
ทำบังสุกุลให้ชาบู
เราไม่อยู่ดูตอนกลบดิน รับรู้ถึง "ทุกข์" เมื่อที่สิ่งที่รักมากพรากจากไป โดยเฉพาะรักที่เป็นรักแบบไม่ต้องการอะไรตอบแทน ชาบูรัก meepole และ meepole รักชาบู เป็นรักที่เข้าใจกันมากมองตาก็รู้ใจเสมอ เพราะทุกครั้งมองตาของ meepole ชาบูเขาจะรู้เสมอว่าต้องเดินไปนอนที่ใต้โต๊ะ ขยับนิ้วไปซ้ายขวาเบาๆก็รู้ว่า no พยักหน้ามองตาก็รู้ว่าเข้าบ้านได้ ถ้าขาสกปรกก็จะบอกว่าเช็ดขา ก็จะนอนลงหงายท้องให้เช็ดขา ถ้าขาสกปรกแบบแอบเดินเข้ามาก็จะถามเขาเบาๆเสียงต่ำๆว่า “บูรอยเท้าใคร” ชาบูก็หงายท้องทันที
...สิ่งที่ชาบูเหลือไว้คือความทรงจำที่อยู่ในใจ ความรัก มิตรภาพที่จะไม่มีวันลืมเลือน ชาบูทำให้รู้ว่ารักที่บริสุทธิ์และรักที่แท้จริง..คือความรู้สึกเช่นใด
จนกว่าจะพบกันอีกในภพใดๆ นะชาบู
...สิ่งที่ชาบูเหลือไว้คือความทรงจำที่อยู่ในใจ ความรัก มิตรภาพที่จะไม่มีวันลืมเลือน ชาบูทำให้รู้ว่ารักที่บริสุทธิ์และรักที่แท้จริง..คือความรู้สึกเช่นใด
จนกว่าจะพบกันอีกในภพใดๆ นะชาบู