กราฟชีวิต
หลายคนเปรียบชีวิตเหมือนเส้นกราฟที่มีขึ้นลง ตามเหตุและปัจจัยที่เข้ามา ซึ่งจริงๆแล้วหากเราไม่ประคองใจให้ดี ใจเราเราก็คงจะแกว่งขึ้นแกว่งลง เช่นนั้นบ่อยๆ ก็จะส่งผลต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตเราด้วย เพราะออร์โมนและการหลั่งสารบางชนิดเกี่ยวข้องกับความเครียด เครียดมากๆ ต่อเนื่องนานๆ หรือเครียดต่อเนื่องแบบไม่รู้ตัว (พวกชีวิตไม่ยิ้ม :)
การศึกษาธรรมะ ไม่ว่าจะโดยการอ่านหรือปฏิบัติ ให้เข้าใจ จนเป็นส่วนหนึ่งในจิตสำนึกลึกๆของเรา เมื่อมีเหตุอะไรมากระทบเราสามารถนำธรรมะเหล่านั้นมาเป็นเกราะช่วยให้คิดเป็น เข้าใจสิ่งที่เกิด มีสติกับทุกๆปัญหาที่เข้ามาโดยไม่ทุกข์ อยู่เย็นได้ ไม่เครียด
การคิดดีๆ คิดบวกแบบที่นิยมกัน เช่น เราทำได้ เรามีความสุข ทุกคนรักเรา และอื่นๆ ก็เป็นจิตวิทยาที่ดี ใช้ได้ผลในระดับหนึ่ง แต่เมื่อเผชิญปัญหาในหลายๆรูปแบบ บางครั้งก็หลุด เพราะเป็นเพียงจิตวิทยาที่ใช้ปลอบใจตัวเอง แต่มันไม่ได้เข้าไปในส่วนลึกๆ เพราะจริงๆแล้วลึกๆเราอาจรู้ว่าเป็นการหลอกตัวเอง (ในบางกรณี)
แต่การใช้ธรรมะประคองจิต ศึกษาเข้าใจในพระธรรมคำสอน จะสามารถใช้ได้กับทุกสถานการณ์ และหากรู้จักนำมาใช้แล้ว ชีวิตไม่ว่าเผชิญกับปัญหาอะไร ก็สามารถเผชิญ และผ่านได้อย่างมีสติ เย็นและสงบจริงๆ และที่สำคัญคือหากเราต้องเผชิญปัญหาใดๆอีกใจเราจะไม่แก่วงขี้นลงเหมือนเส้นกราฟ แต่จะเผชิญทุกอย่างด้วยจิตที่นิ่ง ไม่เศร้า ไม่ทุกข์ ไม่เครียด และก็แก้ปัญหาเหล่านั้นได้ด้วยสติ ปัญญา ลองดูนะคะ
ที่มาภาพ: tabitusa.blogspot.com