จากข่าวที่พาดหัวข่าวไว้ว่า สะเทือนใจ! กอริลลาช่วยกันถอดกับดักของมนุษย์
Meepole อ่านแล้วสะเทือนใจข่าวหลังมากกว่า เพราะเคยมีความชื่นชอบในการปฎิบัติหน้าที่ที่ผ่านมา การแสดงออกที่เคยได้รู้จากสื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้มีความรู้ มีความกล้าในการแสดงออก และมีจุดยืนในการทำงาน และโน้มไปในทางที่มีจิตสาธารณะ ทำให้มองไปว่าเป็นผู้มีความรับผิดชอบ เคร่งครัดในหน้าที่ แม้มีบ้างที่บางข่าวที่เคยออกมาทำให้ต้องยอมรับต่อความจริงของคนว่าไม่มีใครสมบรูณ์แบบ แต่ข่าวที่ออกมาล่าสุดสามารถลบภาพสวยงามให้เลอะเลือนอย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยเหตุผลที่ง่ายๆว่าในบทบาทของความเป็นแพทย์ที่ต้องช่วยชีวิตมนุษย์ เห็นชีวิตมนุษย์มีค่า กลับยืนยันยอมรับเครื่องตรวจหาวัตถุระเบิดจีที 200 ว่าไม่ใช่เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ หากใช้ตรวจหาวัตถุระเบิดได้ผลร้อยละ 20 ก็ถือว่ายอมรับได้แล้ว และหน่วยงานสถาบันนิติฯของท่านได้จัดซื้อในราคาที่สูงมากกว่าหลายๆหน่วยงานมาก เป็นกรณีศึกษาด้านจริยธรรม คุณธรรม มโนธรรม และเรื่องของ "คน" ได้ดี
หากคิดแทนพ่อแม่ญาติพี่น้องของผู้ต้องนำเครื่องมือที่ได้ผลร้อยละ 20 ไปเดินตรวจหาวัตถุระเบิด ว่าหากลูกต้องมีความเสี่ยงตายสูงถึง 80% เขาจะรู้สึกอย่างไร เพราะการยอมรับ หรือ ไม่รู้ว่าถูกหลอก (ไม่น่าเชื่อ เพราะไม่น่าโง่จริงๆ) ทำให้จัดซื้ออุปกรณ์ดังกล่าวด้วยเงินภาษีของคนในชาติ (ของmeepoleด้วย) ไม่ต่ำกว่า 300ล้านบาท และชีวิตของคนที่นำไปใช้ คิดว่าจะตีราคาเท่าไหร่............ได้เคยอ่านข้อเขียนของพระไพศาล วิสาโล และของใครบางคนที่เขียนไว้ซึ่ง meepole ได้เก็บโน้ตไว้น่าจะนำมาประกอบเรื่องนี้ได้ดี..........
จิตสำนึกและความรับผิดชอบส่วนตัว (personal accountability) สำนึกความรับผิดชอบ (SENSE OF RESPONSIBILITY) ในการทำงานตามหน้าที่และความรับผิดชอบถือเป็นสิ่งที่แต่ละคนควรยึดถือให้ดีที่สุด แต่ที่สำคัญการทำงานในยุคใหม่นั้นความรับผิดชอบเพียงประการเดียวไม่เพียงพออาจจะต้องมีความรู้ความสามารถ และต้องมีความเชี่ยวชาญคือไม่ใช่เพียงแต่ทำงานเป็นอาชีพ แต่ต้องทำงานอย่างมืออาชีพ(Professional) ด้วย
สำนึกความซื่อสัตย์ (SENSE OF INTEGRETY) ในบทบาทนี้เป็นสิ่งที่ปุถุชนคนดีพึงกระทำคือความมีคุณธรรม จริยธรรมในการทำงาน
ความรู้ผิดรู้ชอบในมโนธรรมสำนึกคน เป็นมโนธรรมสำนึกที่บอกเราว่าความถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าอำนาจ แต่นับวันเราจะมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีกันน้อยลงทุกที การคิดคำนวณถึงผลเสียที่อาจจะเกิดขึ้นทำให้เราปิดใจไม่รับรู้ความเจ็บปวดของเพื่อนมนุษย์ และเฉยชาต่อเสียงร้องของมโนธรรมสำนึกภายใน แต่เราจะรู้หรือไม่ว่าการกระทำเช่นนั้นยิ่งทำให้จิตใจของเราแข็งกระด้าง และลดทอนความเป็นมนุษย์ของเราให้เหลือน้อยลง
ฟื้นความเป็นมนุษย์และความรู้สึกผิดชอบชั่วดีให้กลับคืนมา อย่าโยนหน้าที่ให้ศาลเป็นผู้ตัดสินความถูก-ผิด ไม่ว่าจะทำอะไรไปก็ตาม ควรให้มโนธรรมสำนึกในใจของเราเป็นเครื่องตัดสิน เมื่อผิดควรยอมรับด้วยตนเองว่าทำผิด ไม่ใช่ให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน เพราะหากปล่อยให้เป็นหน้าที่ของศาลหรือใครก็ตาม ไม่ช้าไม่นานสำนึกในความผิดชอบชั่วดีของเราก็จะปลาสนาการไป ถึงตอนนั้นเราจะยังมีความเป็นมนุษย์อยู่อีกหรือ!!
หมายเหตุ หากมีเวลาลองเข้าไปอ่านที่นี่ดูนะคะ ขำๆ มีความคิดเห็นดีๆเยอะ เช่นhttp://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X12412927/X12412927.html"เห็นด้วยกับคุณหญิงหมอพรทิพย์ครับ เราควรนำกลับมาใช้อีกรอบ
แต่อยากให้มีการเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ใช้งานนิดหน่อย
เป็นหมอพรทิพย์กับท่านสุกำพล ทุกครั้งที่มีเหตุต้องสงสัย
ให้ 2 ท่านนี้เป็นคนใช้เครื่องมือเท่านั้น จะใช้คนละกี่เครื่องก็เบิกไปเลย
แต่ขอให้ใช้กัน 2 คนเท่านั้น " ขำดีค่ะ
อ้างอิง: คำขอที่ยิ่งใหญ่ พระไพศาล วิสาโล
อ่าน สำนึกลิง สำนึกคน (1) ที่