Wednesday, 14 December 2011

การอุทิศแผ่ส่วนบุญอย่างไรให้เกิดบุญ (10/1)

การอุทิศแผ่ส่วนบุญก่อให้เกิดบุญ



 พุทธศาสนิกชน เมื่อทำบุญอันใดแล้วก็มักจะอุทิศส่วนบุญนั้นแก่ท่านผู้มีพระคุณ หรือแก่คนอื่น สัตว์อื่น เจ้ากรรมนายเวร  เพราะหวังจะให้เขาเหล่านั้นให้ได้รับผลบุญเพิ่มขึ้น เป็นการแสดงออกถึงการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่ขี้เหนียว มีใจกว้างหวังประโยชน์สุขต่อคนอื่น สัตว์อื่น เมื่อตนได้รับบุญแล้วก็หวังจะให้คนอื่น สัตว์อื่นได้รับบุญนั้นด้วย เหมือนคนมีความรู้แล้วก็ถ่ายทอดให้แก่คนอื่น ด้วยหวังให้เขาได้มีความรู้ความสามารถด้วย
บางคนทำบุญ เช่น ให้ทาน รักษาศีล หรือเจริญภาวนาแล้วก็ไม่ยอมอุทิศบุญที่ได้รับนั้นให้แก่ผู้ใด ก็จะได้บุญแต่ผู้เดียว และได้บุญเฉพาะในเรื่องของทาน ศีล หรือ ภาวนาที่ตนได้ทำเท่านั้น แต่ไม่ได้บุญข้อปัตติทานมัย แต่ถ้าหากว่าผู้นั้นอุทิศส่วนกุศลนั้นแก่ผู้อื่นด้วย เขาก็จะได้บุญเพิ่มขึ้นอีกอย่างหนึ่ง คือ ปัตติทานมัย บุญเกิดจากการให้ส่วนบุญ

  การอุทิศบุญหรือแบ่งบุญให้ผู้อื่น สามารถให้ได้ทั้งผู้ที่มีชีวิตอยู่และล่วงลับไปแล้ว โดยที่ผลบุญของเราไม่ได้ลดน้อยลงแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกลับทำให้เราได้บุญมากขึ้นไปอีก เรื่องนี้มีกล่าวในพระไตรปิฎก (พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย เอกนิบาต เล่ม 1 ภาค 1 หน้าที่ 307) เวลาเราทำบุญมาเปรียบเสมือนเราได้จุดเทียนไข เมื่อมีคนมาขอต่อไฟ เราก็ยินดีให้เขาต่อไฟ ไฟเราก็ยังอยู่ แม้จะมีคนมาขอจุดไฟ 100 คน ไฟเราก็ไม่ได้หายไปแม้แต่น้อย
จุดประสงค์ของการอุทิศส่วนบุญ ก็เพื่อให้บุคคลอื่นได้ร่วมอนุโมทนา ซึ่งจะเป็นเหตุให้กุศลจิตของบุคคลอื่นเกิดได้ กุศลจิตที่อนุโมทนาย่อมเป็นกุศลของผู้อนุโมทนาเอง ซึ่งกุศลที่เกิดขึ้นด้วยการอนุโมทนานี้จะเป็นเหตุให้ได้รับผลที่ดี คือ กุศลวิบากจิตเกิดขึ้น ไม่ใช่เราหยิบยื่นกุศลของเราให้คนอื่น  แต่การที่เราทำบุญ แล้วเป็นเหตุให้คนอื่นที่รู้อนุโมทนายินดีด้วย ขณะใดที่เขาอนุโมทนายินดีด้วย ขณะนั้นก็เป็นกุศลของเขา  ซึ่งจะต้องเป็นกุศลจิตของผู้ที่อนุโมทนาเท่านั้นจริง ๆ ดังนั้นทั้งการอุทิศบุญ และการอนุโมทนาในบุญที่ผู้อื่นได้กระทำ ล้วนเป็นบุญกุศลทั้งนั้น

 การให้ส่วนบุญแก่คนที่ยังมีชีวิตอยู่ จะให้ต่อหน้าก็ได้ ให้ลับหลังก็ได้ การให้ต่อหน้า เช่น เราทำบุญมาอย่างหนึ่ง จะเกิดจากทานก็ตาม จากศีลก็ตาม หรือจากภาวนาก็ตาม เมื่อเราพบพ่อแม่หรือญาติ มิตรสหาย ก็บอกว่า "วันนี้ผม หรือดิฉัน ได้บวชลูกหรือบวชหลานมา ขอให้คุณ... จงได้รับส่วนกุศลนั้นด้วย ขอให้อนุโมทนาในส่วนกุศลครั้งนี้ด้วย" ผู้รับจะอนุโมทนาหรือไม่ก็ตาม แต่ผู้ให้ย่อมได้รับส่วนบุญแล้ว ถ้าเขาอนุโมทนา เขาก็ได้รับบุญข้อปัตตานุโมทนามัยด้วย

การอุทิศบุญจะต้องอุทิศเป็นภาษาบาลี หรือต้องมีน้ำกรวดหรือไม่ ตอนต่อไปค่ะ :)