จากพาดหัวข่าว คุณภาพบัณฑิตไทยตกต่ำ แนะมหา‘ลัยปรับคุณภาพบัณทิตให้มากขึ้น
ศ.ดร.ภาวิช ทองโรจน์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าบัณฑิตไทยไม่มีคุณภาพว่า คุณภาพบัณฑิตไทยตกต่ำมานานพอสมควรแล้ว ภาพรวมยิ่งน่าเป็นห่วงโดยเฉพาะบัณฑิตที่จบในสาขาที่ไม่มีองค์กรวิชาชีพกำกับดูแลอย่างสายสังคมจะไม่ค่อยมีคุณภาพเท่าที่ควร และยังผลิตมาก ขณะที่ตนเคยคุยกับผู้ประกอบการต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าบัณฑิตที่จบออกมาส่วนใหญ่ไม่สามารถทำงานได้ทันทีต้องมาเสียเวลาจัดอบรมและฝึกทักษะพอสมควรถึงจะทำงานได้ ส่วนที่ทำงานได้เลยมีน้อยมากและเป็นผลผลิตจากมหาวิทยาลัยเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น ดังนั้นมหาวิทยาลัยต่างๆจะต้องหันกลับมาดูและเตรียมความพร้อมคุณภาพของบัณฑิตให้มากขึ้น ทั้งเรื่องภาษา เทคโนโลยีที่ทันสมัย
ด้านดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวว่าที่ผ่านมาตนคุยกับผู้ใช้บัณฑิตหรือสถานประกอบมาตลอดต่างก็บ่นว่าบัณฑิตไทยไม่ค่อยมีคุณภาพเท่าที่ควร และก่อนทำงานต้องมาจัดฝึกอบรมให้ก่อน ทำให้ต้องเสียงบฯ และเวลาพอสมควรกว่าบัณฑิตจะทำงานได้
โดย : ศูนย์ข่าวการศึกษาไทย (ENN) 7 ก.ย. 54
จากพาดหัวข่าว และคำกล่าวข้างต้นของทั้งสองคนที่อยู่ในวงการศึกษามานาน อยู่ในตำแหน่งที่สามารถจะผลักดันให้เกิดคุณภาพหรือเกิดการพัฒนาทางการศึกษาได้ และเป็นสิ่งที่คนที่เอาใจใส่ในคุณภาพการศึกษารู้ดี รู้มานานแต่ทุกสิ่งที่ไม่มีคุณภาพเหล่านั้นก็ยังคงดำเนินต่อไป แต่ที่จะเห็นได้ชัดเจนคือการพัฒนาทางสิ่งก่อสร้างเพิ่มมากขึ้น บางสถาบันมีเงินหมุนเวียนในการสร้างหรือซ่อมตึก อาคาร เปลี่ยนป้ายชื่อ ทำกำแพง สร้างสนามกีฬา สระว่ายน้ำ หอประชุม หลายร้อยล้านในสามปี แต่นักศึกษาบางสาขาวิชากลับไม่มีอุปกรณ์ในการเรียน ไม่มีจริงๆแม้กระทั่งอุปกรณ์พื้นฐานในปีที่เปิดโปรแกรม (วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม สาขามลพิษสิ่งแวดล้อม) แต่เอกสารการขอเปิดหลักสูตรมีทุกอย่างครบถ้วนเพราะกรรมการอนุมัติไม่รู้เรื่องอะไร เชื่อตามที่เขียนไป อนุมัติหลักสูตรโดยไม่มีแม้แต่อาจารย์ที่ตรงสาขาตามที่กำหนดคุณสมบัติกันไว้ แล้วใครจะเอาจริงเอาจังกับเรื่องเหล่านี้ เพราะทุกคนมักคิดและให้เกียรติกันว่าเป็นไปตามความจริง meepole กว่าจะรู้ว่าไม่มีอะไรเลยเมื่อกลับมาใช้ทุน(รัฐบาล) ในสถาบันแห่งนี้ และได้เสนอบอกบัญหาโดยลำดับตั้งแต่คณบดี รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ อธิการบดี จนกระทั่งนำเข้าสู่สภามหาวิทยาลัย เพื่อพูดถึงคุณภาพที่ได้อนุมัติหลักสูตรเปิดสอนโดยไม่มีอุปกรณ์ของสาขาวิชาเลย (จนปัจจุบัน) และเมื่อนักศึกษาไปฝึกงานจึงไม่สามารถฝึกงานตรงสาขาได้เลย เพราะไม่เคยได้ทำปฏิบัติการ จนจบไป 3 รุ่น
นักศึกษาที่จบจากที่นี่มีทั้งที่ไม่มีงานทำ เป็นพนักงานขายของ พนักงานเสริฟ พนักงานนับของ ครู อบต. ไม่มีคนได้เป็นนักสิ่งแวดล้อม หรือที่เกี่ยวข้องตามสาขาที่ได้เรียน (วท.บ. วิทยาศาสตร์บัณทิต ) เพราะไม่เคยได้ทำปฏิบัติการในวิชาเฉพาะสาขาเลย ทั้งๆที่จ่ายเงินค่าปฎิบัติการที่แพง ความผิดนี้ไม่ไช่ของเด็กนักศึกษา อาจารย์ในสาขาได้บอกสิ่งนี้กับนักศึกษาให้ทราบทุกรุ่น
meepole เคยพูดในที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยเพื่อให้กรรมการสภาฯได้เห็นความจำเป็น เมตตาต่อนักศึกษาและ ช่วยผลักดันให้อนุมัติการจัดให้มีอุปกรณ์ ด้วยคำพูดนี้ “ ดิฉันขอเรียนให้กรรมการสภาฯทราบว่า นักศึกษาที่ไปฝึกงานในปีที่ผ่านมากลับมารายงานและพูดว่าเขารู้สึกละอายมากเมื่อเข้าไปฝึกงานที่แห่งหนึ่งแล้ว มีนักศึกษาจากสองสถาบันมาฝึกด้วย พี่เลี้ยงจะแบ่งงานก็ถามว่าใครใช้อุปกรณ์ใดเป็นบ้าง ทุกคนเป็นหมดยกเว้นที่มาจากสถาบันนี้ที่ไม่เป็นเลยและไม่เคยเห็นด้วย มีพวกเขาสองคนที่ส่ายหัวว่า "ไม่" ตลอด และดิฉันก็ตอบเด็กเช่นกันว่า ไม่เพียงแต่คุณที่ละอาย แต่ครูก็ละอายไม่ต่างกัน และรู้สึกผิดต่อพวกคุณ (นศ.) ด้วยที่ไม่สามารถจัดหาอุปกรณ์ให้ได้”
นักศึกษาที่จบจากที่นี่มีทั้งที่ไม่มีงานทำ เป็นพนักงานขายของ พนักงานเสริฟ พนักงานนับของ ครู อบต. ไม่มีคนได้เป็นนักสิ่งแวดล้อม หรือที่เกี่ยวข้องตามสาขาที่ได้เรียน (วท.บ. วิทยาศาสตร์บัณทิต ) เพราะไม่เคยได้ทำปฏิบัติการในวิชาเฉพาะสาขาเลย ทั้งๆที่จ่ายเงินค่าปฎิบัติการที่แพง ความผิดนี้ไม่ไช่ของเด็กนักศึกษา อาจารย์ในสาขาได้บอกสิ่งนี้กับนักศึกษาให้ทราบทุกรุ่น
meepole เคยพูดในที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยเพื่อให้กรรมการสภาฯได้เห็นความจำเป็น เมตตาต่อนักศึกษาและ ช่วยผลักดันให้อนุมัติการจัดให้มีอุปกรณ์ ด้วยคำพูดนี้ “ ดิฉันขอเรียนให้กรรมการสภาฯทราบว่า นักศึกษาที่ไปฝึกงานในปีที่ผ่านมากลับมารายงานและพูดว่าเขารู้สึกละอายมากเมื่อเข้าไปฝึกงานที่แห่งหนึ่งแล้ว มีนักศึกษาจากสองสถาบันมาฝึกด้วย พี่เลี้ยงจะแบ่งงานก็ถามว่าใครใช้อุปกรณ์ใดเป็นบ้าง ทุกคนเป็นหมดยกเว้นที่มาจากสถาบันนี้ที่ไม่เป็นเลยและไม่เคยเห็นด้วย มีพวกเขาสองคนที่ส่ายหัวว่า "ไม่" ตลอด และดิฉันก็ตอบเด็กเช่นกันว่า ไม่เพียงแต่คุณที่ละอาย แต่ครูก็ละอายไม่ต่างกัน และรู้สึกผิดต่อพวกคุณ (นศ.) ด้วยที่ไม่สามารถจัดหาอุปกรณ์ให้ได้”
meepole เชื่อว่าทุกคนได้ยินชัดเจนแต่จะเข้าใจหรือไม่ ไม่ทราบ และมีเอกสารที่โปรแกรมแจกแจงอุปกรณ์ที่ควรมีและต้องมีประมาณ 18 รายการ งบ 2 ล้านบาทเศษ แบบประหยัดสุดๆ ประกอบการอธิบายในสภาฯว่าใช้สอนในวิชาใด ขอเช่นนี้มา 3 ครั้งในทุกระดับ แต่ไม่เคยมีการตอบรับกลับมา จนเด็กจบไป 3 รุ่นและเราเห็นว่าจะเกิดผลเสียต่อนักศึกษา เหมือนหลอกลวง ทำร้ายอนาคตของเขา ที่หลงมาเรียนในสภาพที่ไม่พร้อม ก็เลยขอปิดหลักสูตรสิ่งแวดล้อม แต่ไม่ได้รับการอนุญาตจากอธิการบดีและเรียกหัวหน้าโปรแกรมและอาจารย์ไปบอกว่าสิ่งนี้ต้องไม่เกิด จะไม่มีการปิดโปรแกรม (เพราะมีนศ.สนใจมาเรียน) จนบัดนี้เราก็ยังคงต้องสอนกันโดยไม่มีอุปกรณ์เฉพาะสาขาให้เด็กได้ฝึกปฎิบัติเลย นี่คือความจริงเพียงส่วนหนึ่งของความไม่มีคุณภาพที่นี่ แต่การประเมินคุณภาพคณะผ่านมาโดยตลอดเพราะกรรมการประเมินรู้กันดีดูเอกสารเป็นหลัก เคยเสนอให้กรรมการต่างๆมาเดินเยี่ยมชมสถาบันที่ท่านเป็นกรรมการอยู่ แต่คงคาดเดาได้นะคะว่าสิ่งที่ meepole ขอเป็นไปได้หรือไม่ หุ หุ
เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่อยากให้โทษนักศึกษาฝ่ายเดียวที่ไม่มีทักษะ หรือไม่มีคุณภาพ เพราะเบื้องหลังความขาดทักษะ ไม่มีคุณภาพต่างๆนั้น มาจากการจัดการบริหารที่ไม่เอาใจใส่คุณภาพด้านวิชาการอย่างจริงจัง จริงใจ กรรมการประเมินที่ไม่ใส่ใจจริงจัง ดูแต่ภาพลวงตาที่สวยหรู ให้ผ่านดี ดีเยี่ยม ตามตัวอักษรในรายงานทุกครั้ง คุณภาพการศึกษาจึงตกต่ำ ไม่มีการปรับปรุงคุณภาพที่แท้จริง จึงทำให้เป็นดังเช่นที่นักการศึกษาแต่ละคนที่ออกมาพูดให้เป็นข่าวครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วก็หายเงียบไป ผลกรรมตกที่นักศึกษา ลูกหลานใคร?? จึงอยากเปลี่ยนหัวข่าวให้เป็น
คุณภาพบัณฑิตไทยตกต่ำ แนะมหา‘ลัยปรับ
คุณภาพผู้บริหาร และกรรมการประเมิน ให้มากขึ้น
คุณภาพผู้บริหาร และกรรมการประเมิน ให้มากขึ้น
Meepole อยากเห็นคนที่มีตำแหน่งที่สามารถจะบันดาลสิ่งนั้น (คุณภาพที่แท้ ไม่ไช่ภาพที่สร้าง) ให้เกิดได้ เข้ามาอ่าน มาเห็น มาร่วมรู้สึก และช่วยลบภาพลวงตาเสียที การศึกษาชาติจะได้พัฒนาจริงๆ แล้ว 15,000 บาท จะได้ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป