Sunday, 31 July 2011

ต่อบุญ 3: ถวายกุฏิ พูลทรัพย์ พูลศีล พูลสุข แก่สงฆ์

ต่อบุญ 3: ถวายกุฏิ พูลทรัพย์ พูลศีล พูลสุข



(ต่อ) ..กุฏิ3 หลังนี้ ได้สนองรับใช้พระคุณเจ้าทั้งหลายในการประชุมถวายความรู้เพื่อพัฒนาพระนักเทศน์ของคณะสงฆ์หนใต้ ๑๔ จังหวัดภาคใต้และมาเลเซีย ครั้งที่ ๔  เมื่อ ๑ – ๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๔ มีพระเข้าร่วมการฝึกอบรม ๕๔ รูป เข้าพักจำนวน ๔๐ รูป เป็นการเริ่มต้นการใช้ประโยชน์เสนาสนะนี้
หลังจากงานนั้นท่านเจ้าคุณฯเจ้าอาวาส จึงเห็นสมควรให้มีพิธีการมอบถวายกุฏิเหล่านี้ให้เป็นของสงฆ์อย่างเป็นทางการ งานในวันนี้จึงกำหนดให้จัดขึ้นเมื่อวันที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๕๔ และเป็นการทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่บุพการีของ meepole ด้วย





นิมนต์พระเถระจากจังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร ระนอง มาเจริญพระพุทธมนต์






งานนี้เชิญคุณครู อาจารย์อาวุโส (65-93 up) ที่เคยสอน และกัลยาณมิตร ที่มาร่วม (วันก่อนหน้างานได้รับโทรศัพท์จากดร.ขจิต ฝอยทอง (ม.เกษตรฯ) ว่ามาอยู่ที่นี่แล้ว จึงถือโอกาสชวนอาจารย์มาร่วมงานบุญนี้ด้วย รู้จักผ่านงานเขียนใน blog โทรคุยกันตอนน้ำท่วม แต่ยังไม่มีโอกาสรู้จักตัวจริงเสียงจริงกันเลย งานนี้เลยเป็นโอกาสดีที่จะพบกัน)

อาจารย์อาวุโสอายุ 93 ปี ความจำเยี่ยม สุขภาพแข็งแรง เพราะท่านแก่วงแขน ตักบาตรทุกเช้า ตอนเย็นไปวัด สวดมนต์ นั่งสมาธิเสมอมา (ท่านบอกว่าตักบาตรตั้งแต่เด็กเรื่อยมา เป็นภาพชินตาของคนที่นี่ที่เห็นอาจารย์ทุกเช้า) เคยสอนแม่ และmeepole วันหนึ่งจะเอาเรื่องที่อาจารย์คุยหลายๆเรื่องมาเขียนบันทึก


งานนี้ก็มีบางส่วนที่มาร่วมบุญโดยไม่ได้รู้จักกัน แต่สำหรับเรื่องบุญแล้วก็เป็นเรื่องของบุญจริงๆ บางคนเชิญแต่ไม่ได้มีโอกาสมาร่วมอนุโมทนา มีบางคนบอกไม่ชอบเข้าวัด (ที่ต้องเชิญอาจารย์ท่านนั้นเพราะอาจารย์เป็นคนที่ยายและแม่เคยเมตตาเขาและมาร่วมงานศพท่าน ตั้งใจให้เขามีจิตที่อ่อนโยนแต่เขาก็ยังคงเป็นเช่นนั้นเอง) ทุกคนที่ meepole เลือก เชิญล้วนมีเหตุผลของการตอบแทนพระคุณ และคนที่เป็นมิตรที่ดี เพื่อให้เขาได้มีโอกาสต่อบุญ และได้ร่วมบุญกันในภพต่อไปที่อาจพึงมี  และมีบางคนที่ไม่รู้จักแต่มาร่วม มากล่าวอนุโมทนาร่วมกันก็ถือเป็นกุศลที่เคยสร้างร่วม และงานนี้ทุกคนเกิดปิติ ที่ได้เห็น ได้ยินสิ่งดีๆ และได้กล่าวคำถวายกุฏิ พร้อมใบหน้าที่มีความสุขของทุกคนที่มา

 

หากท่านใดได้มีโอกาสเข้ามาเยี่ยมเยือนในที่นี้ ก็ถือว่าเป็นผู้ได้ร่วมทางบุญ อ่านแล้วเกิดปีติร่วมกัน ขอให้ร่วมอนุโมทนา และได้รับส่วนกุศลอันผู้บริจาคได้ตั้งจิตมั่น ในการที่จะอุทิศถาวรวัตถุนี้ไว้ในบวรพระพุทธศาสนาเพื่อช่วยส่งเสริมให้พระพุทธศาสนาเจริญมั่นคงสืบต่อไป ด้วยกันเถิด


Saturday, 30 July 2011

ต่อบุญ 2: กุฏิ พูลทรัพย์ พูลศีล พูลสุข




ต่อบุญ 2: กุฏิ พูลทรัพย์ พูลศีล พูลสุข

กุฏิที่พักสงฆ์ ๓ หลัง เมื่อเสร็จแล้ว

วัดที่ได้ถวายกุฏินี้เป็นวัดพระอารามหลวง มีอายุนับเท่าที่มีหลักฐานปรากฏก็ตั้งแต่ประมาณต้นกรุงรัตนโกสินทร์ (พ.ศ. 2445)  เป็นวัดที่มีพระเถระผู้ใหญ่ของจังหวัดจำพรรษามาตลอด ทั้งเจ้าคณะจังหวัด และและเจ้าคณะภาค แต่ด้วยเสนาสนะของวัดนี้ที่มีอยู่ได้เสื่อมทรุดไปตามกาลเวลา ทำให้การจัดกิจกรรมต่างๆของวัดไม่สะดวก วัดนี้ไม่เคยมีการเรี่ยไร จัดงานหรือประกาศรับบริจาคใดๆมาโดยตลอด ข้าพเจ้าและสามีจึงได้ปรารภกับท่านเจ้าคุณฯเจ้าอาวาส เรื่องการก่อสร้าง ปรับปรุงเสนาสนะ ท่านเจ้าคุณฯก็มีความเห็นเช่นเดียวกัน และเห็นว่าควรเริ่มด้วย การสร้างกุฏิ เพื่อให้พระสงฆ์ที่มาทำกิจได้มีที่พัก เพราะขณะนั้นไม่มีกุฏิที่เหมาะสม และมีไม่เพียงพอด้วย meepole และสามีจึงรับเป็นเจ้าภาพ เพื่อสนองเจตนาและส่งเสริมการปฏิบัติกิจของท่าน

กุฏิที่พักสงฆ์ ๓ หลัง กำลังตกแต่ง

               ท่านได้กำหนดสถานที่ก่อสร้างให้ และให้สร้างเป็นทรงปั้นหยา (แบบศิลปะของชาวใต้) ซึ่งมีกุฏิแบบนี้ที่ท่านเพิ่งบูรณะเสร็จอยู่แล้วหลังหนึ่ง จึงให้ใช้แบบตามนั้น ปรับให้ขนาดใหญ่ขึ้นอีกเล็กน้อย ให้มีลานซักตากผ้าอยู่ด้านหลัง ทิ้งพื้นที่ด้านหน้าให้ว่างไว้เพื่อมิให้เบียดกับพระอุโบสถ ช่วยเสริมให้พระอุโบสถและวัดดูโอ่โถงขึ้น จำนวนกุฏิเป็นชุด สามหลัง สองชั้น ขนาด กว้าง ๗.๕๐ เมตร ยาว ๙.๒๐ เมตร การก่อสร้างกุฏิที่พักสงฆ์ ๓ หลัง ๆ ละ xxxx บาท ในส่วนของกุฏิ และอุปกรณ์ภายใน meepole และสามีได้ถวายส่วนตัวทั้งหมด เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และเสริมสร้างบุญบารมีในทางพระพุทธศาสนา และอุทิศบุญกุศลให้แก่บุพการีอันเป็นที่รัก-เคารพยิ่ง ๓ ท่าน คือ ก๋งวณิชย์-ยายพูลทรัพย์-ม่าม้าพูลสิน  ผู้ล่วงลับ

ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้นประมาณ 1 ปี 6 เดือน ท่านเจ้าคุณฯ ได้ตั้งชื่อกุฏิทั้งสามว่า
 พูลทรัพย์ พูลศีล พูลสุข  เพื่อเป็นอนุสรณ์ เป็นประโยชน์ในพุทธศาสนาสืบไป



หากท่านใดได้มีโอกาสเข้ามาเยี่ยมเยือน อ่านแล้วเกิดปีติร่วมกัน ขอให้ร่วมอนุโมทนา และได้รับส่วนกุศลอันผู้บริจาค( meepole และสามี) ได้ตั้งจิตมั่น ในการที่จะอุทิศถาวรวัตถุนี้ไว้ในบวรพระพุทธศาสนาเพื่อช่วยส่งเสริมให้พระพุทธศาสนาเจริญมั่นคงสืบต่อไป ด้วยกันเถิด

ต่อบุญ 3: ฉลองและถวายกุฏิ พูลทรัพย์ พูลศีล พูลสุข   ร่วมอนุโมทนาตอนต่อไป

Friday, 29 July 2011

ต่อบุญ 1

ต่อบุญ 1: ร่วมอนุโมทนา

จากเรื่อง เกิดปิติ ที่เคยเขียนไว้ (http://meecorner.blogspot.com/2011/05/blog-post_16.html)

      ..... ตอนนี้กุฏิทั้งสามหลังได้เสร็จเรียบร้อย และกำหนดการฉลองกุฏิและมอบถวายแก่สงฆ์เมื่อ วันที่ 12 กรกฎาคม 2554 ที่ผ่านมา งานนี้ได้นิมนต์พระผู้ใหญ่มาสวดทั้งสิ้น 16 รูป และนิมนต์พระมาร่วมฉันภัตตาหารรวมประมาณ 30 กว่ารูป เชิญคุณครูอาจารย์ ที่เคยสั่งสอน meepole มา ที่อาวุโสสุดท่านก็อายุ 93 ปี ความจำเป็นเยี่ยม สุขภาพแข็งแรง เดินไปไหนมาไหนได้เอง หูตาปกติ ไม่ต้องตะโกนพูด ท่านเคยสอนแม่ meepole ด้วย  นอกจากนี้มีเพื่อนสนิท สหายธรรม กัลยาณมิตร รวมแล้วประมาณ 30 คน จัดงานเล็กๆ คนน้อยๆ ตอนแรกคิดว่าจะไม่บอกใคร เพียงแค่นิมนต์พระสวด ถวายเพล เงียบๆ ก็พอ แต่พระอาวุโสท่านหนึ่งให้ข้อคิดว่า ทำแบบนั้นก็ได้เพราะเป็นความตั้งใจของเจ้าภาพ แต่การสร้างกุฏิถวาย 3 หลังเช่นนี้เป็นสิ่งดี มงคล การเชิญญาติสนิท มิตรสหาย มาร่วมอนุโมทนาบุญ ก็ย่อมจะเป็นสิ่งที่ทุกคนจะเกิดปิติ ได้สร้างกุศล ต่อบุญ  เมื่อได้ฟังเช่นนั้นก็เลยคิดถึงครูอาจารย์ที่เคยได้อบรมสั่งสอน ผู้มีพระคุณ กัลยาณมิตร ที่จะรู้สึกปิติและอิ่มบุญ ร่วมกัน

ขอนำเรื่องราวบางส่วนในหนังสือมาบันทึกเก็บไว้ในโลกไซเบอร์แห่งนี้ เป็นตอนๆ หากท่านใดได้มีโอกาสเข้ามาเยี่ยมเยือน อ่านแล้วเกิดปีติร่วมกัน ขอให้อนุโมทนา และได้รับส่วนกุศลอันผู้บริจาคได้ตั้งจิตมั่น ในการที่จะอุทิศถาวรวัตถุนี้ไว้ในบวรพระพุทธศาสนาเพื่อช่วยส่งเสริมให้พระพุทธศาสนาเจริญมั่นคงสืบต่อไป ด้วยกันเถิด

หนังสือที่ระลึก
ได้เตรียมการทำหนังสือที่ระลึก เล่มหนึ่งชื่อ "สุขภาวะด้วย 3 อ." จำนวน 500 เล่ม โดยเรียบเรียงเรื่องประวัติของวัดไว้ และนำหนังสือที่กำลังเขียนเรื่องหนึ่งมารวมไว้ แจกเพื่อให้เกิดประโยชน์ในทางธรรมและสุขภาพด้วย ในการนี้มีทั้งพระเถระและฆราวาสร่วมอุปถัมภ์การจัดพิมพ์จนมีเงินเหลืออีกมาก จึงจะนำไปทำหนังสือสวดมนต์ประจำวัด (ซึ่งยังไม่เคยทำมาก่อน) ต่อไปในอนาคตอันไกล้นี้

ของที่ระลึก/ของถวายสงฆ์
Meepole ได้นำภาพหลวงปู่ทวด ซึ่งได้จากวัดไทยในประเทศมาเลเซียมาใส่กรอบถวายเป็นที่ระลึก
ในส่วนของเครื่องไทยธรรม ท่านพระครูศรัทธาโสภิต เมตตาเป็นเจ้าภาพทั้งหมด
ผ้าไตรจีวรทั้งหมด ท่านพระเทพสุธี เจ้าอาวาส เป็นเจ้าภาพทั้งหมด
ชุดผ้าเช็ดตัว คุณกิ่ง-คุณธนกร เป็นเจ้าภาพถวาย

ต่อบุญ 2 : กุฏิ พูลทรัพย์ พูลศีล พูลสุข ตอนต่อไป

Thursday, 28 July 2011

SILENCE

SILENCE



 Silence enable us to be attentive to what's going on, to all the ups and downs.




Keeping silence and slowing down helps not only ourselves but everyone around us.......


Wednesday, 27 July 2011

ขอบคุณ ขอบคุณ และ ขอบคุณ

ขอบคุณ ขอบคุณ และ ขอบคุณ



ดูเจาะข่าวเด่น ช่อง 3 เมื่อครู่ ฟังไป ก็ทั้งเศร้า และซึ้งใจกับ คำว่า หน้าที่ และความรับผิดชอบ ยิ่งนัก คนที่เสียชีวิตในหน้าที่ท่านเหล่านั้นก็ได้ทำหน้าที่ จนลมหายใจสุดท้ายหมดไป ส่วนเบื้องหลังผู้ที่ได้รับมอบหมายทั้งที่เกี่ยวข้องโดยตรงและทางอ้อมที่เข้าไปช่วยเหลือในการนำร่างของแต่ละท่านออกมาจากเหตุการณ์แบล็กฮอว์กตก แต่ละชุดปฎิบัติการ ทหาร เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรรมชาติและสวล หัวหน้าอุทยานแก่งกระจาน  ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้ทำหน้าที่ครั้งนี้ต้องเหนื่อย ทุกข์ยากทั้งกายและใจ ใจนั้นต้องเต็มร้อยจริงๆ ตลอดจนครอบครัวของทั้งผู้รอคอยความหวัง ครอบครัวของผู้เข้าไปช่วยเหลือ ทั้งภาวนา บนบาน ทำทุกอย่างเพื่อให้ทุกคนปลอดภัย

สำหรับ หน้าที่ ความรับผิดชอบ และเหนืออื่นใดคือ น้ำใจที่มีต่อกัน ไม่มีคำใดจะกล่าวสรรเสริญ นอกจาก ขอบคุณ ๆๆๆ และขอบคุณจริงๆ สำหรับทุกอย่างที่ได้ทำไป แม้ว่าไม่ได้รับการประกาศชื่อชมเชย หรือ...ก็ตาม แต่สิ่งดีๆที่ท่านได้ทำเป็นกุศลกรรมที่หวนคิดเมื่อใดก็เป็นสุขที่ได้ช่วยเหลือกัน เล่าสู่รุ่นลูกหลาน  ไม่เสียชาติเกิดเป็นคนจริงๆ

อยากให้หลายๆกลุ่มที่ทะเลาะกัน ตระหนักบ้าง หันมาสามัคคีกัน รักแผ่นดินบ้านเกิด คนร่วมชาติเดียวกัน ลดผลประโยชน์ส่วนตัวลง เพราะชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน เกิดมาทั้งที จะตายไป ก็เหลือดีให้คนสรรเสริญ เป็นเกียรติศักดิ์ศรีแก่วงศ์ตระกูลสืบต่อไปเถอะ


จากข่าว.....กรณีเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพบกตก 3  ครั้งในช่วงเวลาเพียงไม่กี่วัน จากครั้งแรก เฮลิคอปเตอร์แบบฮิวอี้  ครั้งที่สองเฮลิคอปเตอร์แบบแบล็คฮอว์กที่แก่งกระจาน และล่าสุดเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นเฮลิคอปเตอร์แบบ เบลล์  212  ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 1 ราย  ทั้ง 3 เหตุการณ์ทำให้กองทัพสูญเสียกำลังพลไป 17 นาย

Tuesday, 26 July 2011

งมงาย

งมงาย


สุดเศร้า เต่าพูดได้ ที่นครราชสีมาตายแล้ว

"....สุดเศร้า เต่าพูดภาษาคนได้ ที่จ.นครราชสีมา ตายแล้ว หลังมีชาวบ้านแห่ไปขอโชคลาภ ขูด-สอบถามเลขเด็ดตลอดทั้งวันทั้งคืนจนไม่ได้พักผ่อน ก่อนยืดคอหวีดร้องขาดใจตาย...."

เห็นข่าวทำนองเดียวกันแบบนี้ มานับไม่ถ้วน มีอะไรที่ประหลาด คน หรือสัตว์ หรือพืช ไม่ว่าพิเศษ หรือพิการ กราบไหว้ไปหมด ไม่มีเหตุผล งมงาย ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ หลายๆครั้งที่น่าสงสาร ก็คือสัตว์เหล่านั้น ที่ตกเป็นเหยื่อของการขาดปัญญาของ "คน"  นี่น่าเศร้าไม่น้อยกว่ากันเลย!! ไม่รู้จะทำยังไงดี หลายครั้งก็แอบคิด การศึกษาของเรา ลืมสอน ใส่อะไรไปหรือเปล่า??

อ่านข่าวเต็มจาก: http://pet.kapook.com/view28324.html

Saturday, 23 July 2011

เรื่องแมวๆ

เรื่องแมวๆ


เชื่อว่าใครก็ตามเห็นรูปเจ้าแมวน้อยนี้ คงอดเอ็นดูไม่ได้ สายตาที่ใส ซื่อ  แต่...

meepole ไม่เลี้ยงแมวจ๊ะ ไม่เคยคิดจะเลี้ยง ไม่รู้สึกชอบ แต่ไม่เกลียดแมว ลูบหัวได้ แต่ไม่ชอบให้มาคลอเคลีย รู้สึกว่าเป็นการประจบประแจงแบบมีประโยชน์แอบแฝงยังไงไม่รู้ (มองแง่ร้ายจัง)  ..ก็เพราะไม่รู้จักกันมาก่อน แต่สามารถเดินมาแนบชิดสนิท เฉียดไปมาได้ เบียดคลอเคลียซะ..อี๋ !!!  อาจเพราะ meepole ไม่ชอบคนที่มีพฤติกรรมแบบประเภทที่หลายคนชอบ คือปรับตัวได้เร็ว หัวหน้า ผู้บังคับบัญชา นายคนไหนมา  ดีไม่ดี ไม่เกี่ยง ตามเสนอตัวเป็นเงา หรือไม่ก็ wallpaper ได้แนบสนิท เพียงขอให้สามารถให้ผลประโยชน์ได้ ก็เป็น "คะเลีย"  ( บัญญัติเอง มาจาก คลอเคลีย + ชะเลีย)  ตั้งแต่แรกเห็น.....เหมือนแมว เลยคิดไม่สนิทใจกับแมว   ถ้าปรับตัวเร็วมากขนาดนั้นน่าจะไปเป็นจิ้งจก หุ หุ  (อันนี้เคยเห็น ขนาดตามติดหิ้วรองเท้า กระเป๋าถือ โทรศัพท์ แม้กระทั่งยกจานกับข้าวทุกอย่าง ถือให้ตักตรงหน้า ชนิดเจ้านายไม่ต้องเอื้อมมือออกจากจานข้าว อ้อ! ที่เห็นนี่ก็เป็นครูอาจารย์ในสถาบันการศึกษา อย่าเข้าใจผิด  meepole เห็นแล้วก็ งงๆ งงจริงๆ งงว่าทำได้ไง??  เพราะถ้าเอาใจพ่อ แม่ ตัวเองได้ขนาดนี้คงเป็นลูกกตัญญู น่ารักตายเลยนะนี่ :)

เมื่อวานได้คุยกับกลุ่มดอกเตอร์รุ่นใหม่ ที่มีความคิด แนวคิดที่จะต่อสู้เพื่อความไม่ถูกต้อง และความไม่มีคุณภาพของสถาบัน ที่นับวันจะแย่เกินกว่าที่คนนอกสถาบันจะคิดถึง ว่าเป็นไปได้ และไม่สามารถนำมาบันทึกไว้ได้เพราะต้องมาสัมผัสเองจึงจะเชื่อว่ามีสถาบันการศึกษาที่มีผู้มีหน้าที่ ทำเรื่องที่น่ารังเกียจเช่นนั้น..อยู่จริงๆ   ก็บอกพวกเขาว่ามีหลักการ 2 อย่าง ที่ meepole  ปฎิบัติมาตลอดชีวิตราชการ เพื่อให้ยืนหยัดในสังคม (ที่ไม่น่าเชื่อ) แห่งนี้ได้คือ ไม่ทำชั่ว และ ไม่ทำผิด (ไม่ทุจริต หรือโกงกินเงินแผ่นดินทุกรูปแบบ ไม่ทำผิดจรรยาบรรณ ไม่ทำผิดศีลธรรม โดยเฉพาะศีลข้อที่มนุษย์ต้องรักษาได้ เพราะสัตว์ไม่สามารถรักษาได้ คือศีลข้อ 3 ครูอาจารย์ต้องรักษาศีลข้อนี้ให้ดี เอาไว้ค่อยเขียนวันหน้า)  ทำหน้าที่ให้ดีเท่าที่จะทำได้ในสถานภาพที่เป็นและสถานการณ์หนึ่งๆ  และจริงๆเพียงแค่เราปฏิบัติตามมงคลสูตรข้อที่ 1 ชีวิตเราก็สงบสุขได้มากในระดับหนึ่งแล้ว

ก็มาสรุปตรงที่ว่าแทบทุกคน (แต่ไม่ทุกคน เพราะยังมีหลายคนที่มีกระดูกสันหลังแข็งแรง ยืนหยัดเพื่อทำในสิ่งถูก) กลัวผู้บริหารที่นี่ กลัวการไม่ได้ตำแหน่ง ไม่ได้ขั้นพิเศษ ไม่ได้รับความสะดวกเป็นกรณีพิเศษในเรื่องต่างๆ ไม่น่าเชื่อว่านี่คือสถาบันการศึกษา ไม่น่าเชื่อว่านี่คือผู้ที่คนเขาเรียกว่า ครู อาจารย์ ที่เป็นผู้นำทางปัญญา และมีคุณธรรม จรรยาบรรณ การจะพัฒนาคุณภาพมหาวิทยาลัยในด้านวิชาการ คงทำได้ยากมาก เพราะตอนนี้การสร้างภาพเป็นที่น่าเชื่อถือได้ของคนนอก ข้างในแย่แค่ไหนก็ผ่าน (ที่ไม่ผ่านไม่กี่แห่งนั้นโชคร้ายจริงๆ) เพราะการประเมินในปัจจุบันหลายแห่งทำกันที่โต๊ะ :) หลายคนเลยคิดง่ายๆว่าพูดโต้แย้งไปไม่มีอะไรดีขึ้น ก็เลยไม่พูด เงียบ (แต่เอามานินทาลับหลังได้) หรือไม่ก็ประจบเอาใจ ได้ผลประโยชน์กลับมาอีก ส่วนมากก็เลยเลือกประการหลัง มัน (มัก) ง่ายดี.. เมี้ยวๆ


ทำไมไม่มีใครเห็นนะว่า การบริหารสถาบันแบบไร้คุณภาพการศึกษา สร้างแต่ภาพลวงตานั้น เป็นการบ่อนทำลายอนาคตของชาติที่อันตรายมากจริงๆ

เริ่มต้นตั้งใจเขียนเรื่องแมวๆ แท้ๆ โยงเข้าไปเรื่องคนๆ จนได้ !!! หุ หุ


"ในการดำเนินชีวิตของเรา เราต้องข่มใจ ไม่กระทำสิ่งใดๆที่เรารู้สึกด้วยใจจริง ว่าชั่ว ว่าเสื่อม 
เราต้องฝืน ต้องต้านความคิด และความประพฤติทุกอย่าง ที่รู้สึกว่าขัดกับธรรมะ"

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


ที่มาภาพ: whitemedia.org

Friday, 22 July 2011

แด่ผู้กล้า.. ทหารไทย อีกครั้ง

แด่ผู้กล้า.. อีกครั้ง

meepole เอาใจจดจ่อ ส่งแรงใจพร้อมพยายามคิดในแง่บวกมาสองวันเต็ม กับข่าวการหายไปของเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กตก ในที่สุดก็จบด้วยข่าวที่ไม่มีใครอยากให้เกิด สงสารครอบครัวที่อยู่รอคอยข่าวอย่างมีความหวัง ตอนนี้ก็เห็นใจว่าความเศร้า เจ็บปวดนั้นยากจะบรรยายเป็นคำพูด เชื่อว่าทุกคนในครอบครัวมีความภาคภูมิใจต่อการทำหน้าที่ต่อแผ่นดิน ต่อเพื่อนร่วมชาติอย่างกล้าหาญและเสียสละ สิ่งที่เหลือไว้สำหรับท่านเหล่านี้คือ ความดี ที่จารึกในใจของคนในครอบครัวตลอดไป และสิ่งดีๆที่ได้ฝากไว้ในแผ่นดินของภพนี้

อยากให้ผู้ที่จะมาทำหน้าที่บริหารประเทศ ดูตัวอย่างความเสียสละครั้งแล้วครั้งเล่าของทหารไทยและอีกหลายคนที่ทำงานเสียสละชีวิต เสี่ยงภัยมากมาย เพื่อให้พวกเราพี่น้องร่วมชาติของเขาอยู่สบาย มีชีวิตปกติสุข แล้วใช้เตือนใจ บอกกับตัวเองว่าเขาเหล่านั้นสละชีวิตเพื่อบ้านเมืองได้ พวกท่านก็เพียงทำง่ายๆ ด้วยการรักชาติให้มากหน่อย ทำงานเสียสละทุ่มเวลาให้กับปัญหาของพี่น้องร่วมชาติอย่างจริงใจ  โกงกิน กอบ โกย ทุจริตให้น้อยลง หากไม่ทำการทุจริตเลยก็จะเป็นเกียรติเป็นศรีของวงศ์ตระกูล เป็นโชคดีของลูกหลานในตระกูลรุ่นต่อๆไปด้วย เพียงแค่นี้ เหล่าผู้สละชีพได้รับรู้ด้วยวิถีญาณใดก็คงดีใจที่ทุกๆคนช่วยกันรักแผ่นดินเกิด

ขอสดุดีแก่เหล่าทหารกล้าทุกๆท่านที่ได้ทำหน้าที่อย่างไม่คิดชีวิต...ขอไว้อาลัยให้กับนายทหารทั้ง 13 นาย
ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต และขอยกย่องสดุดีความเสียสละกล้าหาญในการปฎิบัติหน้าที่
ขอให้ดวงวิญญาณไปสู่สุคติด้วยเทอญ

ขอบันทึกสรุปเหตุการณ์เพื่อระลึกถึง

ลำดับเหตุการณ์โศกนาฎกรรม (http://www.sanook.com/)

1. เฮลิคอปเตอร์รุ่นฮิวอี้ตก เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ.2554 ขณะปฏิบัติภารกิจร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม จับกุมและผลักดันชนกลุ่มน้อยตามตะเข็บชายแดนที่รุกพื้นที่ป่า ทำนาข้าวเลื่อนลอย ซึ่งครั้งนั้นทำให้มีเจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต 5 นาย
2. เฮลิคอปเตอร์รุ่นแบล็กฮอว์กตก จากการบินเข้าไปลำเลียงผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์  เฮลิคอปเตอร์รุ่นฮิวอี้ตก ในป่าแก่งกระจาน  เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2554 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ
3. เฮลิคอปเตอร์รุ่น เบลล์ 212 ตกขณะบินเข้าไปช่วยลำเลียงศพผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์รุ่นแบล็กฮอว์กตก มีผู้เสียชีวิตอีก 3 ราย บาดเจ็บ1ราย 
รายชื่อผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ
เฮลิคอปเตอร์รุ่นฮิวอี้ตกเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ.2554
1.พ.ต.กิตติภูมิ เอกพันธ์
2.พ.ต.เกียรติศักดิ์ จีนเอี่ยม
3. ร.ท.ปรัชญา นวลศรี
4.จ.ส.อ.รังสรรค์ พลสายบัว
5.จ.ส.อ.ณรงค์เดช พงษ์นุ่มกูล
เฮลิคอปเตอร์ แบล็กฮอว์กตกเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ.2554
1.พล.ต.ตะวัน เรืองศรี
2.ร.อ.เจตน์ สุดใจ
3.ร.อ.จักรพันธ์ บำรุงพืช
4.ส.ต.อิทธิศักดิ์ หิณะสุทธิ์
5.พ.ต.ประพันธ์ เจียมสูงเนิน
6.พ.ต.ชูพันธ์ พลวรรณ
7.จ.ส.อ.สมคิด วงษ์ตาแสง
8.ส.อ.อร่าม วงษ์สิงห์
9.นายศรวิชัย คงตันนิกูล ช่างภาพช่อง 5
เฮลิคอปเตอร์  เบลล์ 212 ตกเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ.2554 
1.พ.ต.ธีรวัฒน์ แก้วกมล
2.ร.ท.บูรณา หวานใจ
3.จ.ส.อ.วิเชียร จันทร์พัณน์
My condolences to their families and friends. Thank you for your sacrifice.

Wednesday, 20 July 2011

ไม่มี "บังเอิญ"

ไม่มี.."บังเอิญ"


ประตูพระอุโบสถ วัดไตรธรรมาราม

ใครที่ชอบพูดว่า มันบังเอิญน่ะ  บังเอิญ ??? ลองอ่านแล้วใคร่ครวญดูนะคะ

...ทุกสิ่งที่เกิดบนโลกใบนี้ ไม่มีเหตุบังเอิญ…พระพุทธองค์ตรัสว่า


สิ่งทั้งหลายทั้งปวงเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย
สิ่งที่เราได้รับอยู่ในปัจจุบันนี้
ไม่ว่าจะเป็นความสุข หรือความทุกข์
เป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตทั้งหมดทั้งสิ้น
และสิ่งที่เรากระทำอยู่ในปัจจุบันนี้
ก็ส่งให้เราได้รับผลในอนาคตทั้งหมดทั้งสิ้นเช่นเดียวกัน

 จาก.. “บันทึกของพ่อ” สนพ. ธรรมสภา

Monday, 18 July 2011

บันทึกระลึกคนทำดี...คุณหนานเกียรติ ( เกียรติศักดิ์ ม่วงมิตร )

บันทึกระลึกถึงคนทำดี...คุณหนานเกียรติ
 โดย meepole


วันนี้ตั้งใจจะเขียนเรื่องบุญที่จะให้อนุโมทนา แต่ก่อนเขียนแวะไปเยี่ยมเยือนเพื่อนที่รู้จักผ่านผลงานเขียน และก็ต้องตกใจทันทีที่เห็นอนุทิน และข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งการเสียชีวิตของคุณหนานเกียรติ ซึ่งไม่เคยรู้จักเป็นส่วนตัว แต่ติดตามอ่านเรื่องราว และสิ่งที่ได้ปฏิบัติเพื่อส่วนรวม ชุมชน แผ่นดิน เพียงพอที่จะพูดได้ว่า คุ้มที่เกิดเป็นมนุษย์ ที่เกิดมาแล้วได้ทำความดีเพื่อส่วนรวม มีจิตสาธารณะ เสียสละสิ่งส่วนตัว นับเป็นผู้ที่มีน้ำใจ และความดี หลายสิ่งที่ทำ "ดี" อย่างเดียวไม่พอต้อง "กล้าหาญ" ด้วย อันสมควรยกย่องอย่างยิ่ง และด้วยข้อความจากอนุทินล่าสุดของคุณหนานเกียรติ ที่บันทึกไว้ แสดงให้เห็นถึงการเป็นผู้เสียสละได้ดียิ่ง และเป็นการแสดงถึงความเป็นพ่อ ที่ลูกคงต้องเก็บข้อความนี้ไว้ และระลึกถึงคุณความดีที่พ่อทำไว้เพื่อส่วนรวมและเพื่อลูกในขณะเดียวกันไว้อย่างภาคภูมิใจในตัวพ่อและการได้เป็ ลูกพ่อ”  ด้วยข้อความที่สื่อสะท้อนจิตใจที่ดีงาม ข้างล่างนี้ทำให้ meepole ต้องเขียนบันทึกด้วยความรู้สึกที่ทุกคนจะมีร่วมกันเมื่ออ่านจบค่ะ..........


06 กรกฎาคม 2554


ในวันครบรอบ ๔ ขวบ "เฌวา" พ่อตัดสินใจเดินทางไปทำงานเป็นพันกิโล เฌวาคงเข้าใจว่างานของพ่อน่าจะมีความหมายกว่าการอยู่ร่วมฉลองวันเกิดของลูก สุขสันต์วันเกิดนะลูก พ่อขอให้ลูกเป็นคนดี ไม่ซ้ำเติมความทุกข์ยากให้ผู้ยากลำเค็ญ เป็นส่วนหนึ่งกับพวกเขาในเส้นทางหลุดพ้นจากการถูกกดขี่ข่มเหงบีฑา
ดอกไม้: 9





meepole ได้มีโอกาสเขียนทักทายกับคุณหนานเกียรติครั้งล่าสุดเมื่อ เดือนเมษายนที่ผ่านมาเกี่ยวกับ โครงการช่วยเหลือการศึกษาสามเณรไทใหญ่ ( เกียรติศักดิ์ หนานเกียรติ ม่วงมิตร )  http://www.gotoknow.org/blog/kgeneral/434026

 ซึ่งคุณหนานเกียรติ ได้มาบันทึกตอบไว้ดังนี้

24 เมษายน 2554 07:24
สวัสดีอีกรอบครับ
ท่านที่ดูแลสามเณรไม่มีบัญชีธนาคารในตอนแรก จึงได้ให้ชื่อบัญชีของโยมแม่ไว้
ท่านเกรงว่าจะไม่เหมาะ จึงได้ให้คณะกรรมการไปเปิดบัญชีใหม่ครับ
ส่วนเงินที่โอนไปบัญชีของโยมแม่ท่าน ผมได้บอกกับท่านไปแล้วครับ...
meepole ก็ขอบันทึกไว้เป็นความทรงจำ อย่างเงียบๆในที่นี้เช่นกัน

แม้การตายจะเป็นเรื่องปกติของชีวิต แต่เราทุกคนจะรู้สึกเสียดาย เศร้าใจ สำหรับการตายของคนดี คนที่มีจิตสาธารณะคิดและทำเพื่อส่วนรวม  ไม่ว่าจะเป็นจุดไหนของสังคม การตายของคนๆหนึ่งส่งผลต่อความรู้สึกของผู้คนที่รู้จักได้หลายรูปแบบ ขึ้นกับความสัมพันธ์และการสัมผัสตัวตน บางคนได้คุย ทำงานร่วมกัน บางคนได้รู้จักจากการติดตามผลงาน ฯ คนแต่สำหรับในครอบครัวแล้วย่อมเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ แต่ชีวิตคุณหนานเกียรติไม่สูญเปล่า ความดีที่ได้ทำเพื่อส่วนรวมจะถูกกล่าวถึง จดจำ บันทึกไว้ และเป็นตัวอย่างที่ดีให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเป็นแนวปฏิบัติต่อไป

ขอความดีทุกอย่าง และผลบุญที่ได้กระทำมาโดยตลอดจงเป็นพลังบุญส่งให้ดวงวิญญาณคุณหนานเกียรติไปสู่สุคติในสัมปรายภพโน้นเถิด


พฤษภกาสร    อีกกุญชรอันปลดปลง
โททนต์เสน่ห์คง    สำคัญหมายในกายมี
นรชาติวางวาย    มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตทั่วแต่ชั่วดี    ประดับไว้ในโลกา
ที่มาภาพ:artandmusicappreciation.blogspot.com

Saturday, 16 July 2011

อะไรจะสบายเท่า...พอใจ และ รู้สึกพอ

"พอใจ"และ "รู้สึกพอ"



peace of mind

Nothing gives peace of mind better than
the feeling of doing no wrong, having no sins,
and having no secrets to hide.

ในที่ทำงานทั้งเจ้าหน้าที่ พนักงานราชการ อาจารย์ กลัวผู้บริหารมาก จนเครียด เพราะที่นั่นคนเหล่านั้นจะใช้หน้าที่การงาน และเงินเป็นตัวปกครองและบังคับได้ ไม่ถูกใจก็สั่งย้ายแผนก ไม่พิจจารณาความดีความชอบตามที่ควรเป็นให้ ไม่ต่ออายุงานในปีต่อไป ไม่ให้มีรายได้พิเศษ (ไม่ให้สอนเสาร์-อาทิตย์) เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่เกิดที่นั่นและเป็นเรื่องปกติที่ต้องอดทน เพราะความจำเป็นแต่ละคนไม่เหมือนกัน

แต่กระนั้น meepole ยังคิดตลอดเวลาว่าหากผู้บริหารมีเมตตา มีคุณธรรม มโนธรรม และกลุ่มอาจารย์ เจ้าหน้าที่ มีความเพียงพอในชีวิตที่เป็นอยู่ ทำงานอย่างถูกต้องในหน้าที่ มีความสุจริตในทุกเรื่อง ไม่ทำในสิ่งที่ขัดต่อจรรยาบรรณต่างๆ ก็คงไม่เกิดการทำผิดแบบหยุดไม่ได้เช่นที่เป็นอยู่ คนที่ต้องทนทำผิด- บาปต่อไปก็เครียด ไม่มีความสุข คนดีๆที่ทนไม่ได้ก็ลาออกเอง มีที่ระบายก็แอบบ่นให้ฟัง เพราะที่นั่นไว้ใจใครไม่ได้เช่นกัน ทุกข้อมูลสามารถเอาไปฟ้องแลกกับความพึงพอใจได้อีก หลายครั้งที่meepoleได้ฟัง รับรู้ก็เศร้าใจว่านั่นนะหรือคือที่บ่มเพาะของอนาคตของชาติกลุ่มใหญ่ เป็นเบ้าหล่อหลอม จึงไม่สงสัยเลยว่าบัณทิตเหล่านั้นจบออกไปได้โดยแทบไม่มีการพอกพูนคุณธรรมในใจของพวกเขาเลยเช่นกัน

เคยพูดในที่ทำงานและบอกกับหลายคนที่มาปรับทุกข์ และมาขอให้ช่วยเสมอว่า อย่าเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนแล้วยอมทำผิดให้พวกเขา เพราะผิดบาปนั้นติดที่ตัวเราตลอดชีวิต และเมื่อได้ทำผิดแล้วครั้งหนึ่ง ย่อมมีครั้งต่อๆมา เราเป็นข้าราชการไม่ไช่ข้าส่วนตัวใคร (ก๋ง meepole สอนไว้) ทำสิ่งที่ถูกไว้ไม่มีใครทำอะไรเราได้ ชีวิตจะพบแต่สุข ยืนหยัดในหลักการที่ถูกต้อง พ่อแม่ยังไม่เคยสอนให้เราทำในสิ่งที่ผิด-ชั่วเลย แล้วคนพวกนี้เป็นใครที่มาสั่งให้เราทำในสิ่งที่ผิดโกงบ้านกินเงินแผ่นดิน เงินที่เลี้ยงชีวิตลูกและครอบครัวต้องได้มาจากการกระทำผิดเช่นนี้จริงๆหรือ??

meepole เคยบอกพวกเขาว่าตลอดชีวิตรับราชการความภูมิใจส่วนตัวคือ การไม่ก้มยอมให้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ยืนหยัดสู้กับกิเลสทุกรูปแบบที่นั่น ไม่ให้โอกาสคนทำในสิ่งที่ผิดทำนองคลองธรรมเข้ามาไกล้ตัวเลย แม้ไม่เจริญมากในราชการนัก แต่ไม่ตกต่ำ  และไม่เคยลำบากเลย ชีวิตเป็นสุขในเส้นทางที่ต้องการ เพราะชีวิตเรากำหนดทางเดินเอง ถูก- ผิด ชั่ว- ดี เลือกทำเองทั้งสิ้น หลายคนก็บ่นกลับว่า meepole ทำได้เพราะการมีพร้อมแล้ว แต่ mepole บอกพวกเขาว่าไม่ไช่ แต่เป็นเพราะ meepole "พอใจ"และ "รู้สึกพอ"ในสิ่งที่มี ต่อให้มีมากมายแบบหลายๆคนแต่ไม่รู้สึกพอ รู้แต่จะเอาอีก มีความต้องการไปเรื่อยๆไม่หยุด ก็ต้องเป็นหนี้ จิตติดทุกข์ ไขว่คว้าตลอดชีวิต สิ่งที่ควรทำสำหรับการยกระดับจิตก็ไม่มี เสียดายโอกาสการเกิดเป็นมนุษย์จริงๆ แต่ก็มีสิ่งที่ทำให้เกิดความดีใจคือ มีอาจารย์รุ่นใหม่ที่กำลังถูกบังคับทั้งทางตรงและทางอ้อมให้ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง หันมาต่อสู้โดยใช้มโนธรรมเป็นตัวกำกับ ก็หวังว่าเส้นทางชีวิตของพวกเขาจะพบสุขที่เย็นสงบเช่นกัน

สบายใจอะไร จะยิ่งไปกว่า ความรู ้สึกว่า
ตนไม่มีความผิด  ไม่มีบาป  ไม่มีโทษที่ปกปิด

ดังนั้น
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับจิต จึงต้องจัดการกับจิต
ชีวิตจึงจะเป็นชีวิตเย็น
มีความสมดุลของสัญชาติญาณที่ถูกต้อง
ตามที่ควรจะเป็น


คิดว่าคำกล่าวนี้เป็นของท่านพุทธทาส เพราะไปพบที่เก็บไว้นานแล้วไม่ได้อ้างอิงแต่เป็นประโยชน์ จึงเอามาลงในที่นี้ หากวันใดmeepole ได้อ่านพบอีกจะนำมาใส่ให้ครบถ้วน ต้องขออภัยด้วย

Friday, 15 July 2011

ก่อบุญ เกิดกุศล

ก่อบุญ เกิดกุศล


สุดสัปดาห์นี้เป็นโอกาสดีของพุทธศาสนิกชนอีกครั้งที่ได้มีโอกาสทำบุญ ในโอกาสวันสำคัญทางพุทธศาสนา คือวันอาสาฬหบูชา และ วันเข้าพรรษา และก็อาจเป็นวันหยุดพักผ่อนยาวของอีกหลายๆคนโดยไม่นึกถึงวันสำคัญทางพุทธศาสนาเลยก็มี อันนี้ก็แล้วแต่บุญสะสมของแต่ละคน
เมื่อวานได้เอาหนังสือไปถวายพระ และได้สนทนาและปรึกษากับท่านเรื่องการทำหนังสือสวดมนต์ของวัด เพื่อให้ใช้เป็นบทสวดทำวัตรเช้าเย็น และบทสวดต่างๆที่จะนำมาใส่ในเล่มเพื่อใช้สวดให้เป็นมงคลชีวิต ตอนหนึ่งท่านได้ปรารภขึ้นมาว่า คนเราเดี๋ยวนี้ส่วนมากได้ทำในส่วนของทานมัยและศีลมัยกัน แต่ยังขาดในส่วนของภาวนามัย  จะสวดมนต์ ฟังธรรมก็หาได้ยาก ไปวัดพระเทศน์ก็จะคุยกันจนพระเทศน์จบ..

ก็เห็นด้วยกับท่านทุกอย่าง แต่นั่นแหละก็เห็นความจริงในสังคมปัจจุบันที่อยู่กับโลกของวัตถุนิยม  การบริโภคเสพสุขไปวันๆ ไม่เข้าใจเรื่อง ชีวิต ไม่คิดมาก สนุกไปวันๆก็พอ  เมื่อมีเรื่องมากระทบ ก็เครียดก็หาทางออกแบบไม่ใช้ปัญญา เสพยา กินเหล้า หาทางออกไม่ได้ก็ฆ่าตัวเองหรือไม่ก็ฆ่าผู้อื่นแบบที่เห็นข่าวกันมากมาย เสียดายจริงๆที่มีโอกาสได้เกิดเป็นคน สามารถฝึกและพัฒนาตน ยกระดับจิตใจได้แต่ไม่ได้ทำ

วันนี้ก็เป็นโอกาสดีอีกครั้งที่เราในฐานะเป็น คน และ เป็น ”พุทธศาสนิกชน” ควรถือโอกาสเข้าวัดฟังธรรม เวียนเทียนเพื่อเป็นปฎิบัติบูชา ขอเชิญชวนไปวัดกันนะคะ เพื่อก่อบุญ เกิดกุศล เป็นมงคลชีวิตที่ดีจริงๆค่ะ และขอนำเรื่อง "บุญ" มาฝากเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องกันค่ะ

คำว่า บุญ เป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นที่ใจ ธรรมชาติที่ชำระจิตใจให้สะอาดให้ผ่องใส มีผลได้แก่ความสุขที่เกิดทางใจบุญเกิดได้หลายทาง
การกระทำที่เกิดเป็นบุญ เป็นกุศล แก่ผู้กระทำ ด้วยสิ่งที่เรียกว่า บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ มีดังนี้

๑. ทานมัย คือ บุญสำเร็จด้วยการบริจาคทาน ได้แก่ วัตถุสิ่งของให้ธรรมะเป็นทาน เรียกธรรมทาน ให้อภัย เรียกอภัยทานรวม ถึงการละกิเลส โลภะ โทสะ โมหะ ออกจากจิตใจ จนถึงการสละชีวิตอันเป็นสิ่งมีค่าที่สุดเพื่อการปฏิบัติธรรม
. ศีลมัย คือ บุญสำเร็จด้วยการรักษาศีล ได้แก่ คือการตั้งใจรักษาศีล และการปฏิบัติตนไม่ให้ละเมิดศีล ไม่ว่าจะเป็นศีล ๕ หรือ ศีล ๘ ของอุบาสกอุบาสิกา ศีล ๑๐ ของสามเณร หรือ ๒๒๗ ข้อของพระภิกษุ เพื่อรักษากาย วาจา และใจ ให้บริสุทธิ์สะอาดพ้นจากกายทุจริต ๔ ประการ คือ ละเว้นจากการฆ่าสัตว์ ละเว้นจากการลักทรัพย์  ละเว้นจากการประพฤติผิดในกาม  และเสพสิ่งเสพติดมึนเมา อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท วจีทุจริต ๔ ประการ คือไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดปด ไม่พูดเพ้อเจ้อ และไม่พูดคำหยาบ มโนทุจริต ๓ ประการ คือ ไม่หลงงมงาย ไม่พยาบาท ไม่หลงผิดจากทำนองคลองธรรม
 ๓. ภาวนามัย คือ บุญสำเร็จด้วยการเจริญภาวนา ได้แก่ การอบรมจิตใจในการละกิเลส ตั้งแต่ขั้นหยาบไป จนถึงกิเลสอย่างละเอียด ยกระดับจิตใจให้สูงขึ้นโดยใช้สมาธิปัญญา รู้ทางเจริญและทางเสื่อม จนเข้าใจอริยสัจ ๔ คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค เป็นทางไปสู่ความพ้นทุกข์ บรรลุมรรค ผล นิพพานได้ในที่สุด
 ๔. เวยาวัจจมัย คือ บุญสำเร็จด้วยการช่วยเหลือกิจการสงฆ์และภาระพระศาสนาด้วยการกระทำสิ่งที่เป็นคุณงามความดี ที่เกิดประโยชน์ต่อคนส่วนรวม เช่น การชักนำบุคคลให้มาประพฤติปฏิบัติธรรม มีทาน ศีล ภาวนา เป็นต้น ในฝ่ายสัมมาทิฎฐิ
๕. อปจายนะมัย คือ บุญสำเร็จด้วยการมีกิริยาอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ผู้มีพระคุณและคนทั่วไป
๖. ปัตติทานมัย คือ บุญสำเร็จด้วยการอุทิศส่วนบุญที่ได้กระทำไว้ ให้แก่สรรพสัตว์ทั้งปวง การบอกให้ผู้อื่นได้ร่วมอนุโมทนาด้วย ทั้งมนุษย์และอมนุษย์ ได้ทราบข่าวการบุญการกุศลที่เราได้กระทำไป
๗. ปัตตานุโมทนามัย คือ บุญสำเร็จด้วยการแสดงอนุโมทนาในส่วนบุญร่วมกับผู้อื่นเช่น กล่าวว่า สาธุ เพื่อเป็นการยินดี ยอมรับความดี และขอมีส่วนร่วมในความดีของบุคคลอื่น ถึงแม้ว่าเราไม่มีโอกาสได้กระทำก็ขอให้ได้มีโอกาสแสดงการรับรู้ด้วยใจปีติยินดีในบุญกุศลนั้น ผลบุญก็จะเกิดแก่บุคคลที่ได้อนุโมทนาบุญนั้นเองด้วย
๘. ธัมมเทศนามัย คือ บุญสำเร็จด้วยการแสดงธรรม ได้แก่การอธิบายบรรยายธรรมะให้แก่ผู้ร่วมโลกที่ร่วมทุกข์เกิดแก่เจ็บตาย
๙. ธัมมัสสวนามัย คือ บุญสำเร็จด้วยการฟังธรรม ได้แก่ การฟังธรรมและนำข้อธรรมมาประพฤติปฏิบัติให้พ้นทุกข์
๑๐. ทิฏฐชุกัมม์ คือ บุญสำเร็จได้ด้วยการทำความเห็นให้ตรง เข้าใจในเรื่อง บาป บุญ คุณ โทษ สิ่งที่เป็นแก่นสารสาระหรือที่ไม่ใช่แก่นสารสาระ ทางเจริญทางเสื่อม สิ่งอันควรประพฤติสิ่งอันควรละเว้น ตลอดจนการกระทำความคิดความเห็นให้เป็นสัมมาทิฏฐิอยู่เสมอ


สรุปแล้ว “บุญ ย่อลง  เป็น ๓ ทางด้วยกัน คือ 

๑. ทานมัย คือ บุญที่เกิดจากการให้ทาน
๒. ศีลมัย คือ บุญที่เกิดจากการรักษาศีล
๓. ภาวนามัย คือ บุญที่เกิดจากการเจริญภาวนา

บุญกิริยาวัตถุทั้ง ๑๐ ประการนี้ ผู้ใดได้ปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งหรือยิ่งมากจนครบ ๑๐ ประการแล้ว ผลบุญย่อมเกิดแก่ผู้ได้กระทำมากตามบุญที่ได้กระทำ ด้วยกันทั้งสิ้น

ดังนั้นขอเชิญชวนให้ค่อยๆสะสมทำ ตามที่โอกาสอำนวย และเริ่มก่อบุญ เพื่อเกิดกุศล แล้วชีวิตจะพบกับความสุขที่สงบจริงๆค่ะ :)