Sunday, 15 May 2011

ครูไทย..น่าเศร้าใจจริงๆ




นี่แหละที่เขาว่าอนิจจังไม่เที่ยง ยุบหนอพองหนอ  เมื่อวานดีใจ วันนี้เศร้าใจ มันขึ้นๆลงๆ แบบนี้ล่ะที่ไม่ดีต่อสุขภาพทางใจ ส่งผลทางกายด้วยถ้าเป็นแบบนี้บ่อยๆ เราจึงควรระวังใจ ทุกขณะจิต รับรู้มาแล้วรู้สึกไม่ชอบก็วาง ชอบก็รับรู้แล้ววาง ไม่ควรเป็นนักไต่เขา ไต่เขาขึ้นลงๆๆ ทั้งวัน ผู้เขียนเพียงตั้งชื่อให้สามารถนำเข้าสู่บทเขียนได้ อย่าจริงจังกับความรู้สึกมากนัก เอาสาระดีกว่า

 เมื่อเช้านี้ meepole โทรศัพท์คุยถามข่าวกับลูกศิษย์ที่บ้านน้ำท่วมจนหมดคราวที่แล้ว  แล้วถามข่าวเรื่องที่ทำงานเขาว่าเป็นอย่างไร ลูกศิษย์คนนี้เคยสอนที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ในอัตราจ้างได้สี่ปี หลังจากนั้นมาสอบบรรจุได้เป็นครูโรงเรียนที่มีชั้นมัธยมขยายโอกาส เป็นโรงเรียนชนบท ที่มีเด็กนักเรียนประถมถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยปีนี้มีนักเรียนประมาณ 450 คน ลดลงกว่าเดิมประมาณ 100 คนเพราะตอนนี้ถนนเข้าถึง มีรถโดยสารรับส่งเด็กเลยไปเรียนโรงเรียนที่อาจดีกว่า แต่ไกลออกไป และตอนนี้มีครู 29 คน ผอ.ไกล้เกษียณ ที่ไม่ค่อยอยู่ หากอยู่ก็ไม่สนใจอะไร เพราะเคยเป็นครูน้อยที่แถวๆนั้น เลยรู้จักเป็นเพื่อนบ้าง เป็นรุ่นน้องบ้าง ดังนั้นเวลาที่ครูไม่เข้าสอนเพราะนั่งคุยกัน หรือถึงเวลาสอนยังนั่งคุยกัน ผอ.เห็นก็ไม่กล้าเตือน แถมบางทีเดินเลี่ยงไปอีกทาง และบางคนก็ประจบต่อหน้าหาของให้กิน ชงกาแฟ เอาอกเอาใจ ลับหลังก็นั่งสุมนินทาผอ. นอกจากนี้ที่น่าแปลกสำหรับลูกศิษย์ คือเขาบอกว่าครูพวกนี้เตรียมสอนเองไม่เป็น จะต้องรอหนังสือจากหน่วยงานส่งมา ถ้าไม่มีหนังสือก็สอนไม่ได้ meepole ก็ถามว่าแล้วเอกสารที่ใช้สอนปีที่แล้วหายไปใหน เธอตอบว่าแต่ละปีมีการเปลี่ยนแปลง เลยนั่งรอหนังสืออย่างเดียวจริงๆ (นี่เป็นกลุ่มครูเก่าที่เป็นส่วนใหญ่ในโรงเรียน อายุก็ 40 up) และขี้เกียจสอนมาก เธอไปขอให้ผอ.เปิดสายวิทย์ ปีที่แล้วมีคนเรียน 6 คน แต่ปีนี้ผอ.ไม่ยอมเปิดอีกเพราะพวกครูอื่นๆบ่นว่าการเปิดใหม่ 1 ห้องทำให้ชั่วโมงสอนวิชาเฉพาะเพิ่ม สอนเพิ่มอีกคนละเล็กน้อยก็ไม่ยอม ทั้งๆที่ชั่วโมงสอนก็น้อย ของลูกศิษย์สอน 12 คาบ บางคนก็น้อยกว่านี้ เธอบอกว่ายิ่งอยู่ความรู้ก็หดหาย กำลังใจก็หดหู่ที่เห็นครูแบบนี้ และสงสารเด็กที่หลายคนอ่านไม่ออก เขียนก็ไม่ค่อยถูก ครูไม่ใส่ใจเด็ก แต่พวกนี้ก็สอบผ่านได้เพราะครูแต่ละคนไม่อยากเหนื่อย ให้ผ่านไปเรื่อยๆ เด็กขี้เกียจก็เลยได้ดี จบทุกคน ก็เป็นปัญหาในการเรียนระดับต่อไป อันนี้ไม่แปลกแล้วตอนนี้ที่ meepole สอนนศ.ระดับปริญญาตรี ที่เขียนภาษาไทยผิดได้ถึง 50% เคยเรียกให้เขามาอ่านให้ฟังด้วย เพราะเขาสะกดคำไทยไม่เป็น มีจริงๆ

เรื่องที่เขียนนี้คงสะท้อนได้น้อยนิด ยังมีอีกมาก และคงมีโรงเรียนอื่นๆที่คล้ายๆกัน โดยเฉพาะพวกรร.ขยายโอกาสที่ไม่รู้ว่าเป็นโอกาสของใครกันแน่ ที่แน่ๆมีตำแหน่งผอ.เพิ่มขึ้น คุณภาพการศึกษาลดลงทุกปี น่าเศร้ายิ่งนัก เมื่อครูไม่ทำหน้าที่ ไม่มีสำนึก และที่สำคัญไม่มีความรักต่อเพื่อนร่วมชาติ รักชาติที่จะเห็นคนไทยด้วยกันพัฒนาตัวเอง มีความรู้

เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ เป็นเรื่องของอิฐชั้นแรก ที่ไม่มีใครใส่ใจจริงจัง แลก็เชื่อว่าคงไม่ผ่านหู ผ่านตา ของผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับวงการศึกษาที่จะเอาใจใส่กับเรื่องแบบนี้อย่างจริงจัง เพราะเรื่องพวกนี้ไม่สามารถทำให้เขาไต่เต้าสู่ระดับสูงของหน่วยงานในกระทรวงศึกษา เพราะมีเรื่องอื่นๆที่สำคัญกว่านี้เช่น การจัดตั้งทำโครงการใหญ่ๆ ระดับชาติ วางนโยบายสารพัดให้การศึกษาแข่งขันกับตปท.ได้  จัดอบรมเปลี่ยนแปลงปฎิรูปการศึกษา Big project ทั้งสิ้น จะไปสนใจอะไรกับเด็กจำนวนหนึ่งในชนบทที่จะอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ในเมื่อ เรามีตำแหน่งผอ.กระจายไปทั่ว มีรายงานกลับไปยังเขตด้วยตัวเลขที่น่าพอใจ ของบเพิ่มได้ทุกปี เพียงแค่นี้แล้วคุณว่าไม่ดีอีกหรือไง ?? 

ดังนั้นนี่จึงเป็นเรื่องเศร้า ที่ไม่ว่ายุคสมัยใหน เราจะหาคนที่มีจิตใจเป็นครู สมองมีความคิดสร้างสรรค์ มองเด็กทุกคนคือ "คน"  คนรุ่นต่อไปที่ล้ำค่าของชาติ ที่จะต้องเอาใจใส่อย่างจริงจัง จริงใจ มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้ดีใจ ชื่นใจ และทำให้อยากกอดเมืองไทยขึ้นมาบ้าง...นี่คงได้แต่ฝันไปเถอะ !!