Saturday 14 May 2011

ดีใจจริงๆ



เหนื่อยกับการจัดเตียมบ้านเพื่อสวดมงคลหลายวัน วันนี้ได้นิมนต์พระมาสวดบ้านทั้งสองหลัง ผ่านไปด้วยความสุขใจที่ได้อุทิศส่วนกุศลให้บุพการี วันนี้เย็นเลยออกไปทานอาหารเย็น (ปกติจะไม่ค่อยทานอาหารเย็น ทานแต่นม หรือโยเกิรต์) แวะซื้อสังขยาเจ้าโปรด เจอลูกศิษย์สองคนเขาเดินออกมาทักทาย (เรียกเขาว่า อึ้ง และ อุ่น) เป็นเวลายี่สิบกว่าปีไม่ได้เจอกัน ดีใจมากเพราะเป็นลูกศิษย์ที่สนิทมาก  ยืนคุยกันครู่ใหญ่ สองคนนี้เขาแต่งงานกัน ไม่มีลูกเพราะตั้งใจไม่มี ตอนนี้อยู่สมุทรปราการ ไม่มีรถยนต์ ไปทำงานด้วยรถเมล์ ส่วนลูกศิษย์ผู้ชายลาออกจากงานประจำมาเล่นหุ้นที่บ้าน ก็เตือนว่าอย่าประมาท ขับรถไม่เป็นทั้งคู่ ถามว่าถ้ามีเรื่องฉุกเฉินทำยังไง เขาตอบสบายๆว่า call ครับอาจารย์ ใช้บริการ taxi มีตลอด 24 ชั่วโมง  จำสมัยที่พวกเขายังเป็นเด็กนักเรียนตอนมัธยมปลายได้ อึ้งก็ยังพูดเก่งเหมือนเดิม โผงผางลดลงไปบ้างเพราะอายุ 40 กันแล้ว บอกเขาว่าติดต่อผ่าน mailได้ ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้เจอพวกเขาอีก วันนี้เลยดีใจจริงๆ และเห็นพวกเขาอยู่แบบสบายๆ ไม่วุ่นวาย รู้สึกเป็นสุขแทนพวกเขา และอยากให้พวกเขาประสบความสำเร็จในความเป็นคนตลอดไป (ไม่ไช่ มนุษย์ทำงานๆๆๆๆ+ มนุษย์หาเงินๆๆๆๆๆ =Robot)

สมัยสอนตอนที่พวกเขาเรียนมัธยม เราก็ยังอายุน้อยอยู่ สนิทแบบรุ่นพี่ ไปใหนมาใหนทำกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์กัน กับอึ้งจะสนิทมากเพราะเราเป็นที่ปรึกษาโครงงานวิทยาศาสตร์ เป็นช่วงแรกๆที่เริ่มส่งเสริมการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ ไปประกวดที่ใหนไปกัน ชีวิตตอนเป็นครูมัธยมดีมาก มีความสุข ตั้งแต่ย้ายเข้ามาสอนในมหาวิทยาลัยแห่งที่อยู่นี้ มีความสุขกับการสอนนศ.ประมาณสองรุ่นในสองปีแรก หลังจากนั้นทุกอย่างค่อยๆแย่ลงๆ จนกระทั่งเรากลับจากการเรียนต่อ ได้เห็นวัฒนธรรมองค์กรที่เปลี่ยนไป และพฤติกรรมของนศ.ที่ไม่เอาใจใส่ในการเรียนมากขึ้นแล้ว น่าเศร้า และเราไม่มีความรู้สึกที่ดีกับการบริหารสถานศึกษาแบบขาดคุณธรรม จริยธรรม ตลอดจนกระทั่งคำว่า จรรยาบรรณครู ยังสงสัยว่าอจ.รุ่นใหม่ๆ ยังรู้จักความหมายของคำนี้หรือไม่