กังวล วนเวียน ไปทำไม?
วันนี้ขณะ meepole ขับรถคนเดียวกับเจ้าชาบูซึ่งหลับสบายบนเบาะด้านข้าง เจอปาด เอ้ย! รถปาดหน้า เป็นระยะๆ ทั้งๆที่เราก็ประมาณ 100 km/hr เหมือนกันไช่ว่าคลาน แต่มีคนรีบเร่งกว่า meepole เลยหลบเข้าเลนใน ลดความเร็วลง แล้วก็สบายขับเรื่อยๆไม่เจอปาด ก็เห็นแต่ปาด ป้าด ไป ป้าดมา! กับรถคันอื่นๆเป็นระยะๆ ที่ช่องด้านขวาแทน เรื่องแซงเป็นเรื่องปกติของการขับรถ ใครรีบก็แซง แต่ปาดนี่เป็นมรรยาทที่แย่ของการขับ เพราะระยะกระชั้นพรวดพราด หักกลับเข้ามา คันหลังชลอทันก็โชคดีทั้งสองฝ่าย ไม่ทันก็โครม และคันหลังส่วนมากจะโดนข้อหาผิดตามระเบียบ ยิ่งวันชีวิตในชนบทก็เปลี่ยนไป เข้าใกล้เมืองกรุง ที่ๆมีความเจริญทางวัตถุมากขึ้นทุกที ความมีน้ำใจลดลง ชีวิตรีบเร่ง ทำเวลา การคิดแบบ ช่างเถอะ!! ก็น้อยลง นี่เป็นแวบหนึ่งที่คิดขึ้นมาขณะเห็นมนุษย์ปาด
อีกครู่หนึ่งขณะ รอไฟเขียว (ดีกว่ารู้สึกว่าติดไฟแดง ลองเอาไปคิดดู ใช้ดูนะคะ บอกเพื่อนในเมืองกรุงหลายคน เขาบอก กลับมาหลังจากลองคิดใหม่ว่า เออ! ไม่น่าเชื่อ รู้สึกดีขึ้นจริงๆ) เกิดคิดนึกเรื่องนึงขึ้นได้ ก็กังวลเล็กๆ แวบเดียวก็บอกตัวเองว่า ตลกน่า ! กังวลทั้งๆที่ ไม่รู้ว่าสิ่งนั้นเป็นอะไร และถ้าสิ่งนั้นไม่ว่าเป็นอะไร มันก็เกิดขึ้นแล้ว และหากมันเกิดแล้ว มันก็ตั้งอยู่ มีอยู่ ไม่ต้องกังวล กังวลไปก่อนทั้งๆที่ไม่รู้ว่าสิ่งนั้นเป็นอะไร หรือสิ่งนั้นดีหรือไม่ดีก็ไม่ทราบได้ ดังนั้นติดไปก็ไร้สาระ พบเจอแล้วค่อยว่ากันในเวลานั้นๆ เลยหยุดคิดกังวลได้ในทันที เพียงบอกตัวเองว่า ไร้สาระที่กังวลล่วงหน้า
เมื่อวานได้ดูเรื่องเจ้าหญิงอัตสึ ตอนหนึ่งที่โชกุนพูด ชอบเลยจดไว้ เป็นเรื่องที่อัตสึบ่นกังวลล่วงหน้าว่า จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปอีก..โชกุนก็พูดทันทีว่า
เรื่องยังไม่เกิด จะวิตกไปก่อนทำไม เราควรมาคิดกันว่า
ตอนนี้เราจะทำอะไรกันดีกว่า
ดังนั้นใครชอบคิดล่วงหน้าในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง หรือแม้ว่าเป็นเรื่องก็เถอะ หากคิดไปแล้ว แก้ไขอะไรในเวลานั้นไม่ได้ นอกจากเครียดขึ้น กังวลมากขึ้น ก็ลองหยุดคิดสักนิด ถอยออกมาจากตรงนั้นสักขณะจิต จะรู้สึกดีขึ้น และอาจทำให้อะไรๆ ไม่แย่อย่างที่กังวลนะคะ